วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

วิธีส่งบุญเบิกบุญ


                                                วิธีการอุทิศบุญและวิธีเบิกบุญส่งบุญ
       ในปี ๒๕๔๙  ผมได้อ่านบทความ  ในนิตยสารพุทธา มหาเวทย์ของสันยาสี  ว่าผู้ใดสนใจเกี่ยวกับการอุทิศบุญให้ไปดูที่  WWW.LARNWAT.COM  ผมจึงลองเข้าไปดู  ผมเปิดดูพบพระรูปหนึ่งท่านอธิบายวิธีการอุทิศบุญ  โดยอธิบายเหตุและผลเป็นที่น่าสนใจและมี  VCD  ธรรมทานหลายชุดผม โทรศัพท์ติดต่อโดยตรง ขอ VCD  ทั้งหมด โดยผมส่งแผ่น VCD  เปล่าพร้อมแสตมป์ไปให้  ปรากฏว่าผมได้ VCD 
      ของหลวงพ่อองค์นี้มา ๒๐๐ แผ่น  ผมเปิดฟังดูจนเข้าใจวิธีการทั้งหมด  วิธีการสอนของท่านรุนแรงมาก  จนคนที่ไม่เคยได้เห็นอาจจะแปลกใจหรือไม่ชอบท่านได้ผลจากการศึกษาวิธีอุทิศบุญ  และผลการพิสูจน์กับวิญญาณซึ่งเป็นผู้รับผลบุญ  ซึ่งพวกผมสามารถติดต่อกับวิญญาณเหล่านั้นได้  มีดังนี้
                             การทำบุญให้ทาน
        เมื่อเราถวายอาหารหรือสิ่งของที่ไม่ผิดวินัยแก่พระภิกษุ,  เอาของให้พ่อแม่,  ให้เงินขอทาน,  ให้เงินลูก เอาอาหารให้สัตว์เลี้ยง, เอาเศษอาหารให้มดแมลง ฯลฯ  เมื่อของหลุดมือ  จะเกิดแสงบุญสีขาวจ้าขึ้นมาเพราะเราสละแล้วจึงเกิดบุญแสงบุญนี้จ้าอยู่ชั่วขณะประมาณ ๓ วินาทีแล้วลอยขึ้นไปรอเจ้าของอยู่เบื้องบนสวรรค์
      เมื่อต้องการอุทิศบุญให้ผู้อื่น ให้คิดทันทีที่ของหลุดมือว่า  ผลบุญนี้อุทิศให้…………” การอุทิศบุญให้หลายๆรายในการทำบุญครั้งเดียว  สามารถทำได้ โดยให้คิดอุทิศบุญต่อเนื่องติดๆ กัน  ห้ามเว้นช่วงในความคิด   แสงบุญจะพุ่งไปหาผู้ที่เราอุทิศทุกราย  แต่ถ้าความคิดอุทิศเกิดสะดุดนึกไม่ออก  แสงบุญที่จ้าอยู่จะลอยขึ้นไปรอเราเบื้องบนสวรรค์
                                
                                 การเบิกบุญ
       ผู้ที่ใส่ใจทำบุญกุศลประจำ  บุญนั้นไปรออยู่เบื้องบนสวรรค์แต่ละชั้นปริมาณมหาศาล  เปรียบเหมือนเราฝาก เงินกับธนาคารแต่ไม่เคยเบิกมาใช้เลย  บุญที่เราสะสมไว้เราจะได้รับผลบุญนั้นเมื่อเราสิ้นชีวิตไปจากโลกนี้แล้ว  และรำลึกถึงบุญที่ทำไว้ได้  ก็จะไปเสวยผลบุญที่ทำไว้ในภพสวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่งตามกำลังของบุญนั้น
       แต่มนุษย์ทุกวันนี้  ใครก็อยากให้ผลบุญที่ทำมาตอบสนองและนำมาอุทิศให้กับวิญญาณต่างๆ  นำมาแก้ปัญหาอุปสรรคของชีวิต  การชดใช้ให้นายเวรที่ทำให้เกิดเจ็บป่วย  เคราะห์กรรมต่างๆ  ให้หมดไปดังนั้นจึงมีวิธีการเบิกบุญ  คือ 
        นำบุญที่เราสะสมไว้ลงมาใช้ในปัจจุบัน  แปลกดีนะแต่ทำได้จริงๆ ผมใช้อยู่ทุกวัน อยู่ๆเราจะขอให้บุญของเราลงมาจากเบื้องบน  ลงมาหาเรานั้นเราไม่มีอำนาจเพียงพอในการทำเช่นนั้น  เราต้องขออำนาจผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดช่วยบันดาล
       คืออำนาจพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  นั่นเอง  เพราะมีอำนาจบารมีสูงสุดเต็มจักรวาล  โดยให้คิดอธิษฐาน ดังนี้
        ขออำนาจพระพุทธ  พระธรรม พระสงฆ์  โปรดดลบันดาลให้บุญ ของข้าพเจ้าลงมาส่งให้กับ (………ผู้รับ………)”
        เราจะเบิกสัก  ๑๐๐  ครั้ง  ๑,๐๐๐  ครั้งก็ได้  เรามีสิทธิ์เพราะเป็นบุญของเรา  ในขณะอธิษฐานเบิกบุญ  ในมิติทิพย์จะเห็นแสงบุญเป็นลำสีขาวพุ่งลงมาจากฟ้า  มาหาผู้อธิษฐานและพุ่งไปหาผู้รับ
                                      การส่งบุญ
          สามารถส่งให้กับผู้อยู่ในโลกทิพย์เท่านั้น  สำหรับคนที่ยังไม่ตายไม่สามารถรับบุญที่ส่งมาได้  เช่น  อยากเอาบุญให้พ่อ  แม่  แต่ท่านยังไม่ตาย  ให้ส่งบุญให้กับทุกวิญญาณที่ดูแลรักษาท่าน, นายเวรที่มาถึงตัวท่าน,  ทุกวิญญาณที่บ้านและรถท่าน  ผู้รับบุญจะทำหน้าที่ดูแลท่านเป็นอย่างดี  เอาบุญให้ผู้มารักษาอาการป่วยของพ่อแม่
                                        สรุป 
          *      คิดส่งบุญเมื่อของหลุดมือ  หมายถึง  สละทันทีให้กับ……………………..
          *      เบิกบุญโดย ขออำนาจพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าลงมาส่งถึง………………….
          *       ขอบารมีพระพุทธเจ้า  ลูกขอบารมีจากองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  โปรดแผ่บุญบารมีของพระองค์ท่านลงมาให้……………………..                              
                    เราควรอุทิศบุญให้ใครบ้าง
1.        นายเวร  ที่มาถึงตัวข้าพเจ้า  (นายเวรจะเรียงเหมือนแถวเรียงหนึ่งมาเล่นงานเรา  ผู้ที่ยังไม่ถึงคิวจะยังไม่ทำเรา  ผู้กระทำคือผู้ที่มาถึงตัวเรา)  ต้องให้มาก ๆ  ทุกวัน  พวกนี้ส่วนมากเป็นสัมภเวสี  ที่มีแค้นกับเรามาในอดีตชาติ
  2.  นายเวรทั้งหมด  ถ้ามีแค้นน้อย  เมื่อได้รับบุญ
พอใจจะได้ละไป
         3.  เทวดาและทุกวิญญาณที่รักข้าพเจ้า…..
         3.1ทุกวิญญาณที่รักษาอยู่ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ข้ามีอยู่  เช่น  พระเครื่อง
         4.  ทุกวิญญาณในบ้านข้า  รถข้า  รถยนต์,  มอเตอร์ไซต์  เรือ  มีนางฟ้ามาประจำอยู่เบื้องบนส่งมาทำหน้าที่เราได้เชิญมาเอาบุญให้เขาจะรักเรามาก
         5.  ญาติของข้า  ควรแยกดังนี้  ทีละราย
         5.1 ญาติที่เป็นสัตว์นรก  เราต้องส่งลงไปให้
         5.2  ญาติที่เป็นผี  เปรต  อสุรกาย  สัมภเวสี
         5.3 ญาติที่เป็นยักษ์  นาค  ครุฑ  คนธรรพ์  กุมภัณฑ์  กินนร  เงือก และในป่าหิมพานต์
        5.4  ญาติที่เป็นเทวดา
        5.5  ญาติที่เป็นพรหม
        จากที่ประสพมา  ถ้าส่งบุญให้ญาติหรือวิญญาณทั้งหลายผู้ที่อยากได้บุญที่มีกำลังมากจะรับไปเกือบหมด  เหลือเพียงเศษ ๆ  ให้กับวิญญาณผู้ที่มีกำลังน้อยอยู่ในภาวะชั้นต่ำจึงต้องแยกส่งบุญทีละพวก  จะได้รับโดยสมบูรณ์
                     บุญใดเหมาะกับวิญญาณใด
          ผลของทาน  เหมาะกับพวกสัตว์นรก  ผี  เปรต  อสุรกาย  สัมภเวสี  ปีศาจ  ปอบ  เขารับผลบุญนี้ได้เต็มที่
          ผลของศีล  พวกที่รับได้ดีคือเทวดา  ส่วนผลทานนั้นเทวดารับได้อยู่แล้ว  แต่ผลบุญมันน้อยกว่าศีล  เขายินดีรับผล  ทั้งทานและศีล  ส่วนผี  เปรต  อสุรกาย  สัมภเวสี  ปีศาจ  ปอบ  ไม่สามารถรับผลของศีลได้  เนื่องจากพลังของบุญแรงเกินกำลังรับ  ถ้าจะให้ผู้อยู่ภูมิต่ำด้วยผลของศีล  ต้องอธิฐานแปลงผลบุญศีลให้เป็น  อาหาร  เสื้อผ้า  เครื่องประดับ  ที่อยู่ให้เขาแทน  ส่วนมากเขาหิว, เสื้อผ้าเก่าๆ,  โทรม,  เปลือย,  พิการมีเยอะมาก ๆ                                                                  
ผลบุญของภาวนา  ผู้รับพลังบุญนี้ได้ดี  คือ  พรหม  ถ้าจะให้บุญนี้แก่ผู้ที่ต่ำกว่าพรหม  ต้องอธิษฐานแปลงบุญภาวนานี้ให้เป็นสิ่งที่วิญญาณที่ต่ำกว่าต้องการ
พระภูมิเจ้าที่ แม่ย่านาง ผู้รักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น  พระพุทธรูป
-                 เจ้าที่ คือ เทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา ที่ถูกส่งลงมาทำหน้าที่รักษาผืนดินของแต่ละเจ้าของที่  มีทุกที่
-                     พระภูมิ  คือ  เทวดาชั้นจาตุมหาราชิกาที่ถูกส่งลงมาทำหน้าที่  รักษาสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์
         -   เทวดา เทพธิดาเหล่านี้ อยู่ในชั้นจาตุมหาราชิกาหลังจากตายจากมนุษย์ไป  50 – 100 - 200  ปี  จะถูกส่งให้ลงมารักษาที่โลกมนุษย์
           เทวดาเหล่านี้  เขามาโลกมนุษย์พร้อมวิมานของเขาเป็น  4  เสาจตุรมุก  เป็นแก้ว  สวยงาม
ดังนั้น  ไม่ต้องตั้งศาลให้เขา  แต่ที่เขาต้องการมาก ๆ  คือ  อุทิศบุญให้เขาประจำเขาจะรักเรามาก ๆ  เครื่องเซ่นสังเวยไม่จำเป็น  เช่น  เอาหัวหมู  100  หัว  ไปถวายเขาอาจจะสูดกินความเป็นทิพย์ของอาหาร  แต่ก็ได้ชั่วคราวของนั้นเน่าเสียก็หมดความหมาย 
 ถ้าตัดเอาหูหมู 1หูนำไปถวายอาหารพระอุทิศบุญให้เขา  บุญนั้นจะมีค่าเท่าหัวหมูเป็นล้านหัวดังนั้น ทุกวิญญาณในบ้าน รถ ร้านค้า ที่ทำงาน ที่รักษาคนให้เอาบุญให้  คือสิ่งที่   เขาต้องการมากที่สุดในโลกทิพย์  เครื่องเซ่น  พวงมาลัย  ธูปเทียน ไปแสดงความเคารพเขาไม่ได้อะไร
               พิสูจน์วิธีการอุทิศบุญ  และการเบิกบุญ
        ผมเรียกกุมารทองมานั่งลงตรงหน้า  แล้วลองใช้เงิน ๑ บาท  หยอดใส่บาตรพลาสติกที่เตรียมไว้ทำบุญประจำ  เมื่อเหรียญบาทหลุดมือผมคิดทันทีว่าบุญนี้ให้กุมารทองที่นั่งอยู่ตรงหน้า  ปรากฏว่าแสงบุญสีขาวจ้าขึ้นที่มือผมตอนเหรียญหลุดมือ  แล้วพุ่งไปหากุมารทองนั้นทันที 
       รูปร่างเด็กมีความอิ่มสว่างขึ้นกว่าเดิมทันที  อ้อ!  เป็นเช่นนี้เอง  คิดออกแล้วว่าผมทำไมช่วยพ่อตาไม่ได้  เพราะผมใช้วิธีตามที่ทำกันมาแต่ปู่ย่า  พ่อแม่  เราทำให้เราเห็นมา  คือ  ยกของขึ้นมาจบอธิษฐานขอให้บุญนี้ส่งถึงผู้นั้นผู้นี้  ตอนนั้นบุญยังไม่เกิด  เพราะเรายังไม่ได้สละหรือถวายของ  เราดันไปคิดส่งบุญ 
       พอเราสละหรือถวายของหลุดจากมือแสงบุญเกิดตอนนี้  เรากลับไม่ได้คิดอุทิศ  เพราะว่าเราคิดว่าเราอธิษฐานแล้ว  เมื่อบุญเกิดไม่ได้รีบอุทิศให้ใคร  บุญนั้นก็ลอยแว๊บ ขึ้นไปรอเราอยู่เบื้องบน  ผู้รอรับบุญก็เลยรอเก้อ  ไม่ได้รับบุญเลย  หรือได้รับจากการยกมือ  แอบอนุโมทนาบุญนั้นเมื่อตอนเขาเห็นแสงบุญ  จะเกิดบุญกับเขานิดหน่อยพอได้อิ่มหรือสมบูรณ์ขึ้นเล็กน้อย 
        แต่บุญอุทิศส่งตรงถึงไม่มี  และที่พบเห็นกันมากจนเป็นประเพณี  คือ  การกรวดน้ำตอนพระท่านสวดยะถา……….ได้สอบถามมาหลายวิญญาณแล้ว  ไม่ได้รับเลยหรือได้เพียงเล็กน้อย


ที่ไม่ได้รับบุญเลยเพราะแสงบุญสว่างขึ้นตอนผู้ทำบุญถวาย  สละสิ่งของอาหารนั้นเขามิได้คิดอุทิศ  บุญที่เกิดจึงลอยไปรอเขาที่สวรรค์ 
       พอพระสวดยะถา  จิตเขามิได้ยึดติดยินดี  อิ่มใจในบุญที่ทำ  จึงไม่มีบุญหลงเหลือในดวงจิต  แถมบางรายว่าคำบาลีกรวดน้ำ  อิทัง  โย……เป็นพิธีการอีกต่างหาก ผลคือบุญไปหมดแล้ว  มาคิดอุทิศเท่าไรมันก็ไม่มีบุญออกไปให้ใครได้เลย  ส่วนที่ได้รับบุญเพียงเล็กน้อย
      เพราะผู้ทำบุญเขายังคิดอิ่มใจ  ยินดีในการทำบุญของเขา ทำให้เหลือแสงบุญจ้าในดวงจิต  เขาบางส่วน  แต่ส่วนใหญ่บุญได้ลอยแว๊บ   ไปรอเขาเบื้องบนแล้วมิได้หายไปไหนเมื่อเขากรวดน้ำจึงเหลือพลังบุญส่งออกไปถึงผู้รับได้ส่วนหนึ่งทีนี้มาทดลองเบิกบุญดูบ้าง  เจ้าเด็กกุมารยังนั่งอยู่ต่อหน้าเหมือนเดิมพอผมอธิษฐาน
       ขออำนาจพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้บุญขอข้าพเจ้าลงมาส่งให้กับกุมารทองที่นั่งอยู่ตรงหน้า 
        ปรากฏลำแสงสีขาวของพลังบุญของผมที่ถูกเก็บไว้บนสวรรค์  พุ่งลงมาจากฟ้าลงมาที่ตัวกุมารทอง  ผลปรากฏว่าร่างของกุมารทองใสสว่างอิ่มสมบูรณ์ขึ้นกว่าเดิมทันที  ผลจากการพิสูจน์ของผม  ทำให้ผมเข้าใจวิธีการอุทิศบุญและเบิกบุญได้สมบูรณ์ 
         สามารถให้บุญใครก็ได้ที่อยู่ในโลกวิญญาณโดยไม่ต้องมีพิธีการ  คำสวดใดๆ  เลยใช้เพียงจิตคิดอธิษฐานเท่านั้น  ซึ่งคนทุกคนสามารถทำได้  ถึงแม้เขาเหล่านั้นจะไม่สามารถติดต่อกับโลกวิญญาณได้ก็ตาม ความรู้และวิธีการนี้เป็นรากฐานสำคัญที่ชาวพุทธทุกคนควรรู้และทำได้  เปรียบเหมือนความรู้ระดับประถมของชาวพุทธ  เพื่อใช้แก้กรรม 
      ช่วยเหลือญาติพี่น้องที่สิ้นชีวิตไปแล้ว  แก้การเจ็บป่วยที่เกิดจากนายเวรเล่นงาน  ให้กับวิญญาณที่อยู่กับคนและภายในบ้านให้เขา  มีบุญฤทธิ์มากขึ้น  เขาเหล่านั้นเมื่อได้รับบุญทำให้เขารักและดูและเราได้มากขึ้นคำสอนของ
       พระอริยสงฆ์ส่วนใหญ่มักจะสอนให้ถือศีล  ภาวนา  ซึ่งชาวพุทธที่นับถือพระพุทธศาสนามีความเคารพนับถือพระพุทธองค์  พระอรหันต์  และพระอริยสงฆ์ แต่ไม่ทำตามคำสอนของศาสนามีจำนวนมหาศาล  คือนับถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์  แต่ศีลก็ไม่เอา  ภาวนาก็ไม่เอา  ไม่มีเวลาทำ  ทำบุญทำทานก็มีทั้งตั้งใจทำ  ทำเอาหน้า  ทำตามประเพณี  ทำอย่างเสียไม่ได้  ก็เกิดบุญเหมือนกันคือ                                                      
       บุญชั้นทานซึ่งไปรอเราอยู่สวรรค์ชั้น๑   จาตุมหาราชิกานั่นเองขอเปรียบเทียบเป็นระดับดังนี้  การทำบุญทำทาน  เปรียบเหมือนชั้นประถม  การถือศีลเปรียบเหมือนชั้นมัธยม  การปฏิบัติสมาธิเหมือนปริญญาตรี 
       วิปัสสนาเหมือนปริญญาโท  อรหัตผลเหมือนปริญญาเอก  พระสงฆ์ส่วนใหญ่จะสอนภาวนาคือสอนปริญญาให้ญาติโยม  ทั้งๆ ที่ญาติโยมทั้งหลายยังไม่จบประถม  ฟังกี่ครั้งมันก็ทำไม่ได้  เพราะบุญชั้นทานยังทำมั่งไม่ทำมั่ง  อุทิศก็ไม่เป็นใช้หนี้กรรมก็ไม่เป็น  ทั้งๆ  ที่ทำบุญสะสมไว้มากก็ยังใช้บุญไม่เป็น ชั้นประถมเลยยังไม่ผ่าน 
        ผลการสอนของพระสงฆ์ส่วนใหญ่จึงไม่ประสบความสำเร็จ  พุทธศาสนามีคำสอนซึ่งลึกซึ้งละเอียดมาก  จึงไม่สามารถเข้าไปอยู่ในใจของชาวพุทธส่วนใหญ่ได้  เขาจึงเห็นศาสนาพุทธเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์  เครื่องรางของขลังไปผู้ที่เข้าถึงพุทธพจน์จึงมีน้อยมาก  แม้แต่ผมเองก็สำเร็จแค่ชั้นประถม  คือ  ทำบุญเป็น  แก้กรรมเป็น  นำผลบุญมาใช้เป็นเท่านั้น 
        ส่วนศีลและภาวนากำลังอยู่ระหว่างกำลังปฏิบัติแต่ยังไม่ผ่าน  อย่าคิดว่าผมเป็นผู้วิเศษหรือผู้ทรงญาณนะครับ  ความโชคดีของผมก็คือมีวิธีติดต่อสอบถามชาวโลกทิพย์ทั้งหลายได้  ทำให้มีความรู้ที่มนุษย์ทั่วไปเขาไม่รู้หรือรู้เพียงเล็กน้อย
       จึงได้คิดเขียนบทความเหล่านี้ขึ้นมา  เพราะอยากให้ความรู้นี้ถูกเผยแพร่ออกไป  ให้ชาวพุทธทั่วไปทราบและทดลองปฏิบัติ อย่าเชื่อที่อ่าน ต้องลองพิสูจน์  ส่วนท่านผู้ใดที่มีความสามารถในทางจิตซึ่งสูงกว่าผม  ก็โปรดลองใช้จิตของท่านพิสูจน์ดูว่าการอุทิศบุญเป็นอย่างที่ผมเขียนมานี้จริงหรือไม่
              การรักษาโรคด้วยบุญ  สาเหตุของการป่วย
1.        ป่วยจากเชื้อโรค,  สารเคมี  ฯลฯ  ตามธรรมชาและร่างกายเอง
2.        ป่วยจากนายเวรนำเชื้อโรคมาใส่ในร่างกาย  ทำให้ป่วย  เช่น  มะเร็ง,  อัมพาต,  ไต  ฯลฯ
3.        เจ็บป่วยจากอุบัติเหตุ  มักเกิดจากนายเวรเล่นงาน
         จากประสบการณ์ที่ติดต่อกับวิญญาณ  มีผู้ป่วยมาขอให้ช่วยตรวจสอบ อาการเป็นมะเร็งที่เต้านม  หมอศิริราช  นัดผ่าตัดนมอีก  7  วัน  พอตรวจเข้าไปพบผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างผู้ป่วย  ถามเขาว่า  ท่านเป็นนายเวรของผู้ป่วยใช่หรือไม่  เขาบอกว่าใช่  ผู้ป่วยในอดีตชาติเคยใช้ไม้ทุบที่หน้าอกเขาจนตาย  เขาจึงเอาเชื้อโรคมาใส่ที่หน้าอกทำให้เป็นมะเร็ง  ถามว่าเคยได้รับบุญจากผู้ป่วยหรือไม่  เขาบอกว่าไม่เคยได้ 
ผู้ป่วยคนนี้เคยพบกันที่วัดป่าแดนนาบุญ  อำเภอลานสัก  จังหวัดอุทัยธานี  เป็นผู้มีจิตทางกุศลทั้งครอบครัว  เขาทำบุญเป็นประจำ  สวดมนต์ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฏก  พระคาถาชินบัญชร  นั่งสมาธิ  แผ่เมตตา  แต่ผลการกระทำของเขาเป็นการสร้างบุญไว้ในภพหน้าเท่านั้น  การแผ่เมตตาให้ผู้อื่นเป็นสุข  มิใช่ส่งบุญที่มีอยู่ให้  จึงเท่ากับเหมือนเอาเงินฝากธนาคารโดยไม่ยอมใช้หนี้  นายเวรเห็นบุญเขาทุกวันจึง  
         ยิ่งแค้นเพราะไม่เคยได้รับ  เคยได้จากการแอบอนุโมทนาเท่านั้น  ไม่มีบุญส่งตรงถึงเขา  จึงเจรจากับนายเวรขอให้เขาเอาเชื้อโรคออก  อโหสิกรรมโดยให้ผู้ป่วยจะทำบุญให้โดยวิธีหลุดมือ  และเบิกบุญ  ถามเขาว่าอยากได้บุญอะไรจึงจะอโหสิกรรม  เขาขอบุญภาวนา  จึงสอนวิธีให้ผู้ป่วยเปิดบุญก่อนจึงเริ่มภาวนา 
          โดยให้พ่อ  แม่  ลูกทั้งครอบครัวรวมกันส่งบุญให้  ผลปรากฏว่า  อีก  7  วัน  สามีผู้ป่วยโทรมาหาว่าอาการมะเร็งกลับดีขึ้น  หมอตรวจและระงับไม่ต้องผ่าตัดให้รักษาด้วยยา  นายเวรนั้นอโหสิกรรมเอาเชื้อโรคออกให้ได้แต่  เซลล์ในร่างกายที่ชำรุดต้องรักษาด้วยยา  เขารักษาให้ไม่เป็น
วิธีรักษา  นอกจากใช้ยาแล้ว  ในโลกทิพย์ก็มีหมอที่มีความสามารถรักษาอาการป่วยได้  เช่น  หมอชีวกะ  หรือเทพที่มีพลัง  ให้อธิษฐานขอผู้มีความสามารถในการรักษา  ดังนี้
          ขออำนาจพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  โปรดดลบันดาลให้เสียงของข้าพเจ้าดังถึงผู้มีความสามารถในการรักษาอาการป่วยของข้าพเจ้า
ท่านผู้มีบารมี  ความสามารถในการรักษาโรค……………ขอข้าพเจ้าโปรดช่วยรักษาอาการป่วยของข้าพเจ้าด้วย  ข้าพเจ้าจะอุทิศบุญให้ผู้มาช่วยรักษาข้าพเจ้าทุกวันจนกว่าจะหาย
หลังจากนั้น  เราจะเบิกบุญให้ผู้มารักษาอาการป่วยทุกวัน 
     *  เชื้อโรคที่ทำให้เราป่วยเป็นสัตว์ครึ่งผี  เราสามารถส่งบุญให้เชื้อโรคที่ทำให้เราป่วย  พอมันตายได้รับบุญจากเรา  มันจะไม่กลับมาเกิดในร่างของเราอีก  ทำให้เราหายได้เร็ว
              นอกจากนี้เราควรเบิกบุญและส่งบุญ ดังนี้
          1. อธิษฐานบุญให้เป็นกำแพงกันอาคมต่าง ๆ  ที่จะมาทำร้าย  แต่ไม่กั้นวิญญาณที่คอยช่วยเหลือ
2.    เอาบุญให้ผู้ที่มาทำให้ป่วย  ให้เชื้อโรคที่ทำให้ป่วยตรงที่อวัยวะใด
         3. อาบุญให้ผู้ที่มาช่วยรักษา  ให้บุญกับเทวดาและวิญญาณที่รักษาเรา  รักษาสถานที่,  ที่อยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์จนบุญเขามาก  เขาจะมีฤทธิ์มาก  ช่วยปกป้องเราได้
           ปัจจุบันนี้  เทวดา,  ยักษ์,  นาค,  ครุฑ  ที่ถูกส่งลงมารักษามนุษย์และอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก ได้รับกระแสรับสั่งจากพระพุทธเจ้าให้ช่วยกันเก็บวิญญาณที่ลำบากอยู่ที่โลกมนุษย์ที่สมัครใจ  เช่น  สัมภเวสี,  เปรต,  อสุรกาย  มาสอนให้ถือศีล,  ปฏิบัติธรรม  ผู้ที่สอนได้รับผลบุญธรรมทานกัน  ส่วนวิญญาณที่ลำบากจะได้รับบุญจาก
การปฏิบัติ  ส่งผลให้วิญญาณเหล่านั้น  ไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นตามกำลังบุญปฏิบัติของเขาเอง
               ควรเบิกบุญให้นายเวรที่มาถึงตัวเราทุกวัน
       นายเวรของเราแต่ละคนมีมากมายมหาศาล  เพราะเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ  ฆ่าทรมานทำร้ายคนและสัตว์มามาก  เขาจึงตามจองเวรข้ามภพข้ามชาติมา  โดยนายเวรจะเรียงกันเข้ามาทำร้ายเรา  เหมือนแถวเรียงหนึ่ง  ผู้ที่ทำร้ายเราคือนายเวรที่มาถึงตัวเรา  ส่วนนายเวรที่รอคิวอยู่ 
     ยังไม่ทำร้ายเรา  ดังนั้นเราจึงควรเบิกบุญให้นายเวรที่มาถึงตัวทุกวันและบ่อยๆ เมื่อเขาพอใจจะไป  นายเวรรายต่อไปก็คือนายเวรที่มาถึงตัวเราอีกเช่นเดิมห้อธิษฐานดังนี้  (ปรับคำอธิษฐานเองได้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน)        
       ขออำนาจพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้า ลงมาส่งให้นายเวรที่มาถึงตัวข้าพเจ้า
         พอเราอธิษฐานในใจอย่างนี้  (อย่าอธิษฐานออกเสียง  เดี๋ยวคนไม่รู้เรื่องเขาจะว่าเราบ้านะ)  ในมิติทิพย์จะมีพลังบุญของเราเป็นลำแสงสีขาว  พุ่งลงมาจากฟ้าไปหานายเวรที่มาถึงตัวเรา 
        ซึ่งเขาจะเป็นหญิงหรือชายก็แล้วแต่  สภาพสัมภเวสีโทรมๆ ของเขา จะอิ่มสวยสว่างขึ้น  ขอให้เราทำเป็นประจำยิ่งบ่อยยิ่งดี  เมื่อนายเวรเขาได้รับบุญเพียงพอ  หายแค้น  เขาจะอโหสิกรรมเรา  ละจากเรา  ไปรับผลบุญนั้น  จากนั้นนายเวรคิวต่อไปก็เข้ามาถึงตัวเราอีกไม่หมดไม่สิ้น 
       เพราะเราทำเขามามาก  บางคนเถียงอีกฉันไม่เคยทำบาปจะมีนายเวรได้อย่างไร  โถ! ผมไม่ได้พูดชาติเดียวนี่ครับ  ขนาดพระพุทธองค์ยังมีนายเวรตามเล่นงานเลย  แล้วเราคนธรรมดาจะไม่มีเชียวหรือดังนั้น   ต้องอุทิศบุญหรือเบิกบุญให้นายเวรที่มาถึงตัวทุกวันยิ่งบ่อยยิ่งดี  อย่าให้เขาทำเราก่อนค่อยแก้ไข  จะคอยรับกรรมทำไมล่ะ  รีบใช้หนี้เสียก่อน  เขาก็ไม่ทำเราแล้วไม่ดีกว่าหรือ
      มีบางวัดพระท่านสอนให้นั่งกรรมฐานใช้หนี้กรรม  ให้ทนเจ็บปวดหรือร่างกายแสดงอาการแปลกๆ  ตามที่นายเวรเขามาแสดง  แล้วอุทิศบุญให้นายเวรเพื่อชดใช้กรรมกัน  ก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง  แต่วิธีของผมเอาบุญใช้หนี้ก่อนเลย


ขอสมมุติเปรียบเทียบ  เราทำบุญทาน  ศีล  สมาธิ  ภาวนา  พลังบุญมากมายเป็นลำแสง    
      สีขาวลอยขึ้นไปเก็บบนสวรรค์รอเราอยู่  นายเวรเขาก็เห็นแสงบุญนั้นอยู่  แต่เราไม่ให้เขา  ดังนั้นเขายิ่งแค้นมาก  เพราะเรามีแล้วไม่ให้เขาเลย  ยังจะมาแผ่เมตตาอีก  แจกทั่วเลยใจดีอีก  สรรพสัตว์ทั้งหลายทั่วจักรวาลเลย  ไปยุ่งอะไรกับทั้งจักรวาล  เจ้าหนี้ยืนรออยู่ไม่ให้  เลยโดนเล่นงานซะ  อยากเหนียวหนี้กรรมนัก 
       เหมือนเรามีเงินเอาฝากธนาคารหมด  เจ้าหนี้ยืนรอหน้าบ้านทุกวันไม่ใช้หนี้  เดี๋ยวเถอะโดนตบแน่  ชัดมั๊ยครับ!  แต่ถ้าใครให้บุญนายเวรประจำอยู่แล้ว  ก็แจกบุญให้วิญญาณอื่นบ้าง  เหมือนที่ผมทำก็จะเป็นกุศลอย่างยิ่ง
       อุทิศบุญให้ผู้อื่นเป็นประจำบุญเราจะไม่หมดหรือ
       เคยมีผู้ถามว่าเที่ยวอุทิศบุญให้ทั่วไปหมดอย่างนี้  บุญไม่หมดหรือ  ท่านผู้อ่านก็อาจสงสัยได้  ผมขออธิบายด้วยเหตุและผลดังนี้บุญเรากองเป็นภูเขาอยู่เบื้องบน  เบิกมาเท่าไรก็ไม่หมด  การที่เราอุทิศบุญให้กับผู้อื่น  เท่ากับเราเบิกเอาบุญของเรามาทำทานอีกครั้ง 
        ผลบุญจากการเบิกบุญลงมาให้ทานนี้ จะกลายเป็นบุญสะท้อนกลับไปเบื้องบนสว่างกว่าเดิมอีก  เปรียบเหมือนการฟอกบุญให้สะอาดยิ่งขึ้น  เพิ่มปริมาณมากขึ้น  นี่ผมไม่ได้คิดเองนะครับ  แรกเลยผมฟังจากพระอาจารย์เกษม  วัดป่าสามแยก  อำเภอน้ำหนาว  จังหวัดเพชรบูรณ์ 
      ตั้งแต่เรื่องการอุทิศบุญ  เบิกบุญ  ผมพอมีวิธีพิสูจน์โลกวิญญาณได้  ถามวิญญาณผู้รับบุญดู  ปรากฏว่าจริงหมด  ส่วนเรื่องที่ให้บุญเป็นทาน  บุญยิ่งสะท้อนเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมอีก  ผมกราบทูลถามจากท่านผู้อยู่สูงสุดเบื้องบน  ท่านตรัสว่าใช่บุญสะท้อนจากการให้บุญเป็นทาน  จะยิ่งทำให้ผลบุญมากขึ้นจริง 
      ผมเลยอุทิศบุญแจกทั่วไปหมด  ไม่หวงใครเลย  เรายิ่งให้บุญผู้ลำบากด้วยความเมตตา  โดยมิได้หวังผลอะไรจากผู้รับบุญเรา  พลังบุญยิ่งสะท้อนกลับมาให้บุญเราเพิ่มมากยิ่งขึ้นอีก  พูดง่ายๆ  ยิ่งให้บุญยิ่งมาก  ใครอยากได้เอาบุญไปเลย  ไม่หวงใคร  ในโลกวิญญาณสิ่งที่มีค่าที่สุดคือบุญ  โดยเฉพาะวิญญาณที่ลำบากทั้งหลายมีความต้องการมากจริงๆ 
       ให้เขาเถิดช่วยเขาเถิด  ถ้าเราช่วยได้  บางรายตายมานานจนไม่เหลือญาติที่น้องที่รู้จักเลย  หรือบางรายญาติพี่น้องไม่เคยสนใจเลยบุญทานไม่เคยสนใจ  เลยไม่มีบุญจากญาติตัวเอง  ตอนมีชีวิตก็ไม่เคยสนใจในบุญกุศล  สร้างแต่บาปกรรมด้วยไม่เชื่อว่าโลกวิญญาณมีจริง  พวกนี้ลำบากมากท่านผู้อ่านพิจารณาเอาเองนะครับ  ส่วนผมพิสูจน์มาจนชัดแจ้งในดวงจิตแล้ว
                    วิธีนั่งภาวนาอุทิศบุญ
        ก่อนเริ่มนั่งให้อธิษฐานเปิดบุญก่อน  ดังนี้ เช่น  ต้องการแก้อาการป่วยจากนายเวรที่กระทำ
      ขออำนาจพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์  โปรดดลบันดาลให้บุญจากการภาวนาของข้าพเจ้า  ส่งตรงถึงนายเวรและเชื้อโรคที่ทำให้......(ข้าพเจ้าป่วยเป็น................)
      พออธิษฐานเสร็จ  ผมก็เริ่มกำหนดลมหายใจภาวนาพุทโธ  ตอนที่เราเริ่มภาวนา  จิตยังไม่สงบนัก แสงบุญจากการภาวนาของเราจะหรี่ๆพุ่งไปหาผู้ที่เราอุทิศให้  พอเราเริ่มสงบแสงบุญเราจะสว่างมากพุ่งตรงไปหาผู้รับเต็มที่เลย  พลังบุญจากสมาธินี้มากจริงๆ  ถ้ายิ่งถึงวิปัสสนาพลังบุญยิ่งมากขึ้นไปอีก  แต่ผมทำแค่สมาธิ  พอนั่งทำจนดึกแล้วก็ง่วงซิครับ  อ๋อ!  ไม่เลิกหรอกค่อยๆ 
       กำหนดสติเอนกายลงนอน  เพราะนั่งทำสมาธิบนที่นอน  แล้วทำสมาธิภาวนาต่อจนหลับไปเลย  ปกติก็ทำเช่นนี้ประจำอยู่แล้ว  แต่จะเปิดบุญแจกทั่ว 
เหตุที่ไม่นั่งสมาธิจนนิ่งแล้วถอนจิตมาอุทิศบุญ เพราะเหมือนเราปั๊มลมใส่ถังจนเต็ม  แรงดันสูงมาก  พอเปิดวาวล์ลมพุ่งออกมาอย่างแรง  โดนใครก็เจ็บ 
       บุญก็เป็นเช่นนั้น  ผมอธิษฐานเปิดบุญไว้ก่อน  แล้วนั่ง  ก็เหมือนเปิดวาวล์ถังลมไว้  กำลังบุญที่ออกไปจึงเริ่มแผ่ออกไปอ่อนๆ  แล้วสว่างขึ้นเรื่อยๆ  ตามกำลังสมาธิผู้รับ  เขาจะรับได้เต็มที่แล้วต้องใช้พุทโธหรือ  อันนี้แล้วแต่ใครฝึกถนัดแบบไหนให้ใช้คำภาวนาแบบนั้นไม่จำกัด หรือไม่ภาวนา  นั่งกำหนดสติดูจิตก็ได้ 
       บุญทั้งนั้นเป็นไงครับ  การสร้างบุญ ง่ายมั๊ยครับ! ส่วนการอธิษฐานก่อนนั่งนี้  ก็สามารถประยุกต์คำอธิษฐานเพื่ออุทิศบุญ  แก้ไขเรื่องอะไรก็ให้ประยุกต์เอาเอง  ตามความเหมาะสมที่เป็นทางกุศลนะ  ที่คิดเอาไปใช้ในทางที่ผิดไม่ได้ผลนะ  เช่น  นั่งสมาธิอุทิศบุญให้เทวดามาบอกหวย, นั่งอุทิศบุญให้วิญญาณไหนก็ได้ช่วยไปทำร้ายศัตรูข้า  ไม่ได้นะ
                


  เทวดาและวิญญาณที่รักษาตัวคน
       เมื่อก่อนผมเองก็ไม่เคยรู้  พอมาดู  VCD ของหลวงพ่อเกษม  วัดป่าสามแยก  อำเภอน้ำหนาวเพชรบูรณ์  ท่านบอกว่า  คนเราทุกคนมีวิญญาณที่มาคอยรักษาตัวแต่ละคน  มีทุกคนจริงๆ คือ  เทวดา 2 องค์  ยักษ์ , นาค , คนธรรพ์ , กุมภัณฑ์ , อย่างละ 1 ท่าน รวมทั้งหมด  6  ท่าน  นี่คือคนธรรมดานะ แต่ถ้าผู้มีบุญบารมีจะมีมากกว่านี้อีก แต่อย่างน้อยมี  6  ท่านทุกคน
                               ต้องพิสูจน์
        ผมขอพบเทวดาและวิญญาณที่รักษาตัวผม ปรากฏว่าพบจริงๆ  ด้วยมี  6  ท่านแสดงว่าผมเป็นคนธรรมดาเทวดาที่มาทำหน้าที่รักษามนุษย์ที่ท่านอยู่กับผม  สภาพการแต่งกายใส่ชฎา  มีสังวาลนุ่งจูงกระเบน  กางเกงครึ่งแข้ง  รองเท้าปลายงอนกายใสสว่าง  องค์ใดบุญมากรัศมีกายจะใสสว่างมาก
       ส่วนนาคที่พบก็พบในร่างคน  แต่งกายคล้ายเทวดาแต่ชุดที่แต่งสีเขียว  ยักษ์กับกุมภัณฑ์คล้ายกันร่ายกายล่ำใหญ่แต่ไม่เห็นมีเขี้ยว  คนธรรพ์ก็รูปร่างเหมือนเทวดานั่นแหละ
         คนทุกคนมีผู้รักษาตัวอยู่อย่างน้อย  6  ท่านจริงๆ นะผมพบอย่างนี้  เราควรให้บุญเขาทุกวันหรือบ่อยๆ พลังบุญที่ให้ก็คือพลังฤทธิ์ที่ผู้รักษาเราเขาจะใช้ช่วยปกป้องคุ้มครองเราได้  แต่ต้องไม่เกินกฎแห่งกรรม  ถ้านายเวรจะมาเล่นงานเราอันนี้ผู้รักษาเราเขาไม่มีสิทธิ์ขวาง  เป็นสิทธิ์ของนายเวรที่เป็นเจ้าหนี้กรรมเราเต็มที่
                 นายเวรที่ติดตามตัวของแต่ละคน
        คนแต่ละคนเกิดมาหลายภพหลายชาติ  เคยก่อกรรมกับผู้อื่นมามากมาย  ฆ่าสัตว์มามากมาย  จิตวิญญาณแค้น  จำนวนมากจึงติดตามจองเวรคนแต่ละคน  ตั้งแต่คนเราเกิดมา  พอแรกเกิดก็พบนายเวรติดตามมาแล้ว  ข้ามภพข้ามชาติมาเลย  ไหนจะยังมาก่อกรรมในชาติปัจจุบันอีก  โดยเฉพาะการฆ่าสัตว์ 
       บางคนบอกฉันไม่เคยฆ่าสัตว์  โถ!  ทั้งยุง  มดก็เป็นสัตว์  ฆ่ากันมามากแล้วใช่ไหมล่ะครับการมาจองเวรของนายเวร  เหมือนเข้าแถวตอนเรียงหนึ่งมากระทำเรา นายเวรที่มาถึงตัวเรา คือผู้ที่กระทำเรา ตามพลังแค้นของ นายเวรนั้นอาจจะทำให้เจ็บป่วย  ครอบครัวแตกแยก  อุบัติเหตุ ฯลฯ  อย่างน้อยทำให้คันยังมีเลยครับ 
      ส่วนนายเวรที่ยังไม่ถึงตัวเราหรือยังไม่ถึงคิว  เขาจะยังไม่ทำเรานะ  โน่นรอจนถึงคิวเขาเมื่อไรนั่นแหละเขาจะลงมือทำเรา  ยังมีพิเศษตรงเล่นงานเราเต็มที่เลย  มีทั้งทำให้ป่วยหนักจนตายหรืออุบัติเหตุจนตาย  พิการก็มี                                                       

๓๘
      วิธีแก้กรรมเพื่อมิให้นายเวรเล่นงานเรานั้น  ที่เคยพบเคย  เห็นมีพระภิกษุมาทำพิธีตัดกรรม  แก้กรรม  ให้นอนโลงศพ  เอาผ้าขาว  ผ้าเหลืองคลุมบังสุกุลเป็น  บังสุกุลตายเยอะแยะ สาธุชนทั้งหลายที่กลัวนายเวรเล่นงาน หรือต้องการสะเดาเคราะห์พากันไปเข้าพิธี  มีทั้งต่อดวงเสริมชะตา 
      ในพิธีก็มีการสวดมนต์บทต่างๆ  เอาสายสินจณ์พันหัว  เอาน้ำมนต์ประพรม  แถมท้ายด้วยการทำบุญสังฆทาน  ปล่อยนกปล่อยปลาเกินอายุ  ถ้าจะดีกว่านั้นต้องเช่าบูชาวัตถุมงคลของพระอาจารย์ท่านไปติดตัวด้วย  ท่านใดคิดว่าทำแล้วสบายใจก็ทำเถิดมาดูวิธีของผมบ้าง  ไม่มีพิธีรีตองแต่ผมใช้หลักด้วยเหตุและผลดังนี้
          .  นายเวรส่วนใหญ่ที่พบเป็นสัมภเวสี   คือมีรูปร่างคนนี่แหละมีทั้งชายและหญิง  สภาพมัวหมองด้วยอำนาจ  แรงแค้น  เดิมวิญญาณดวงนั้นอาจจะเป็นคนมาก่อนก็มี  มาจากสัตว์ที่ถูกฆ่า  จิตวิญญาณออกจากร่างสัตว์ทุกตัวก็คือวิญญาณคนที่ไปใช้กรรมเป็นสัตว์ก็มี
๒.      นายเวรที่มาถึงตัวเรากระทำเราตามแรงแค้น
๓.       นายเวรที่รอคิวในการทวงหนี้กรรมยังไม่ทำเรา
      เราอุทิศบุญให้นายเวรที่มาถึงตัวเราทุกวัน  นายเวรที่เป็นสัมภเวสีมีความลำบากหิวโหย  เสื้อผ้าเก่าๆ  ไม่เคยได้รับบุญอุทิศจากใครเลย  เมื่อได้รับบุญสภาพเขาจะดีขึ้นๆ  ร่างกายสดใส  การแต่งกายดีขึ้น  แรงแค้นของเขาก็ลดลงๆ  จนไม่ทำร้ายเรา 
       เมื่อบุญเพียงพอความแค้นหายสิ้น  เขาก็ไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นดีกว่ามามัวจองเวร  ยกตัวอย่างคำอธิษฐานเบิกบุญ  เพราะทำได้สะดวก  ทำได้บ่อยๆ  ดังนี้                                                      
        ขออำนาจพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าลงมาส่งให้กับนายเวรที่มาถึงตัวข้าพเจ้า ”
      เราทำอะไรไว้กับท่าน เราจำไม่ได้แล้ว  เราขออภัยอย่าจองเวรกันต่อไปอีกเลย  เราขอชดใช้ด้วยการอุทิศบุญให้ท่านจนกว่าท่านจะพอใจ
        เราอุทิศบุญให้นายเวรทั้งหลายด้วย  หากนายเวรใดมีแรงแค้นน้อย  พอใจผลบุญที่อุทิศให้  เขาก็จะอโหสิกรรมแก่เราเอง  ทำให้นายเวรของเราเหลือน้อยลงไปอีกการอุทิศบุญให้นายเวรใช้ได้ทั้งบุญที่ทำด้วยการทำทาน  การเบิกบุญ  การถือศีลแล้วอุทิศ 
       หรือบุญภาวนาก็อุทิศได้  ไม่ใช่จะต้องใช้เงินเสมอไป  พลังของบุญที่มีมากเรียงลำดับจากน้อยไปมากคือ

๔๐
ทาน  ศีล ภาวนา จะเห็นว่าบุญภาวนามีพลังบุญสูงสุดไม่ได้ใช้เงินเลย  ขอยกตัวอย่างวิธีอุทิศบุญศีล หลังจากเรารักษาศีล ๕ ได้สมบูรณ์ในเวลา๑  ชั่วโมง, วัน, สัปดาห์เท่าไรก็ได้ตามที่เราตั้งใจ  พอทำบ่อยๆ  ศีลจะอยู่ในใจเราตลอดเวลาเอง ตั้งจิตอธิษฐานดังนี้
        ขออำนาจพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้บุญจากการถือศีล ของข้าพเจ้าส่งถึงนายเวรที่มาถึงตัวข้าพเจ้า”
        “โดยให้ผู้รับสามารถอธิษฐานบุญนี้เป็นสิ่งที่เขาต้องการได้ตามปรารถนา  
          สังเกตนะครับคำอธิษฐานมีการแปลงบุญตามที่ผู้รับต้องการได้เพราะ สัมภเวสีอยู่ในภูมิต่ำสามารถรับบุญจากผลทานได้ดี  แต่บุญจากศีลและภาวนามีพลังสูงไปเขารับได้ยาก  เราต้องอธิษฐานแปลงผลบุญก่อน  อาจจะอธิษฐานแปลงผลบุญศีลให้เป็นอาหาร เสื้อผ้า ที่อยู่อาศัยให้ก็ได้ เช่น ขอให้บุญศีลนี้จะเปลี่ยนเป็นไก่ย่าง  ข้าวเหนียวให้นายเวรของข้า  การเปรียบเทียบ  เช่น  เราเอาเงินให้แมว  มันไม่สมารถซื้อ                                                       
         กินเองได้  แต่ถ้าเราเอาเงินไปซื้อปลาทู  มาให้แมวมันกินได้เหตุใดจึงต้อง  อุทิศให้นายเวรที่มาถึงตัวมาก  ขออธิบายเชิงเปรียบเทียบดังนี้  ถ้าเรามีเงิน  ๑๐  ล้านบาท  เราไปให้คนที่โกรธแค้นเรา ๑๐ ล้านคนได้คนละบาท  ผู้รับไม่หายแค้นแน่นอน  แต่ถ้าเราเอาเงิน ๑๐ล้านบาทให้คนที่โกรธแค้นเราที่เข้ามาถึงตัวเรา
        โอ้โฮ! ๑๐ล้านบาทหายโกรธเลยไปละชัดมั๊ยครับ!  ตกลงวิธีของผมคือ  การใช้หนี้นายเวรด้วยบุญจนเขาอโหสิกรรมนั่นเอง  สามารถทำเองได้ทุกคน  เราพึ่งตัวเองดีกว่าไปพึ่งใคร  จริงไหมครับ! แล้วบางวัดพระท่านสอนให้แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรสรรพสัตว์ทั้งหลายๆๆ  ล่ะ  สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อน…………จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด    
       อย่าได้มีเวรต่อกันและกันเลยบอกให้เขาเป็นสุข แต่เขาหิวเขาแค้น เขาจะละได้อย่างไรต้องใช้หนี้ให้เขาซี  ผู้รับ กระแสของการแผ่เมตตาได้ดี  โน่นชั้นพรหมโน่น  พวกสัมภเวสีรับไม่ได้  เคยถามเทวดาถามสัมภเวสีมามากแล้ว  ไม่ได้บุญจากการแผ่เมตตาเลย  ขออธิบายเชิงเปรียบเทียบ  เราไปตีหัวใครเขา 
       พอเขาจะมาตีคืน  เราก็ขอโทษนะไม่ได้ตั้งใจ  ขอให้เป็นสุขๆ  นะ  ผมว่าเขาไม่หายโกรธนะ  อาจจะตีคืนด้วย  แต่ถ้าเราตีหัวใครเขาแล้ว  ขอโทษไม่ได้ตั้งใจเอาอย่างนี้ขอชดใช้ค่าเจ็บตัวให้  1  ล้านบาท  รับไปเลยนะ  ขอโทษนะ  คนโดนตีหายโมโหเลย
        บางวัดพระท่านใช้วิธีนั่งภาวนาใช้กรรม  จะเจ็บปวดหรือร่างกายแสดงอาการต่างๆ  ตามที่นายเวรผู้แค้นกระทำ  ก็ให้อดทนใช้กรรมก็ถูกเป็นวิธีการที่ดี  แต่ผมขอใช้วิธีอุทิศบุญให้ก่อนที่จะถูกกระทำ  ผมไม่รอให้นายเวรเล่นงาน  รีบใช้หนี้ให้เขาก่อนด้วยบุญ  การนั่งสมาธิภาวนาใช้หนี้กรรมให้นายเวรผมก็ใช้เหมือนกัน  แต่คงต่างวิธีกับบางวัดที่ท่านทำอยู่
               วิธีการนั่งภาวนาใช้กรรมของผมมีดังนี้
       ก. ก่อนเริ่มนั่งภาวนาหรือสมาธิ  ผมจะอธิษฐานเปิดบุญไว้ก่อนดังนี้ 
    ขออำนาจพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้บุญจากการภาวนาของข้าพเจ้าส่งถึงนายเวรของข้าพเจ้าและเปลี่ยนเป็นสิ่งที่นายเวรต้องการ
       ข. ผมเริ่มนั่ง  หรือใช้อิริยาบทตามถนัด  บางครั้งผมก็นั่งขัดสมาธิ  บางครั้งผมก็นั่งเก้าอี้  ตามถนัด  แล้วกำหนดจิตภาวนา ผมถนัด  พุทโธ  ผมก็ใช้คำภาวนา  พุทโธ  ส่วนใครจะใช้คำภาวนาอย่างไรแบบใดก็ได้ตามความถนัดที่ฝึกฝนมา
       ผมกำหนดสติไว้ที่ท้ายทอยนั่งดูร่างกายตัวเองเหมือนเครื่องยนต์ที่กำลังสูบลมเข้าออกเอาพุทโธ ประคองไว้ไม่ให้ใจไปคิดเรื่องอื่น  หรือบางครั้งก็กำหนดสติไว้ที่ปลายจมูกข้างที่โล่งที่สุด  ดูลมเข้าออก  ผมไม่เอาจิตวิ่งตามลม  (เป็นความเคยชินของผมเอง)  เมื่อเราเริ่มภาวนาพุทโธขณะยังไม่นิ่ง  จะเกิดบุญภาวนาขึ้นที่ดวงจิตของเราเป็นแสงบุญรังสีสีขาว  หรี่ๆ  ส่งไปถึงนายเวรที่รอรับอยู่เมื่อจิตเราเริ่มนิ่งขึ้น 
       แสงบุญจะสว่างขึ้นตามความนิ่งของสมาธิ  กระแสบุญที่ส่งไปถึงนายเวร  จะมีพลังแรงขึ้นเรื่อยๆ  นายเวรที่มีพลังน้อยอยู่ในภาวะสัมภเวสีจะรับพลังบุญภาวนาขณะที่แสงบุญหรี่ๆ  แต่เมื่อแสงบุญสว่างมากขึ้นๆ  เปรียบเหมือนน้ำเชี่ยวนายเวรที่พลังบุญยังน้อยก็ต้องหลีกไปเพราะรับไม่ไหว ส่วนนายเวรที่มีพลังในการรับได้ก็จะรับบุญภาวนาต่อไป 
        เมื่อนายเวรของเราได้รับบุญเป็นประจำพลังในการรับบุญจะมากขึ้นๆ  จนรับได้เต็มที่  เมื่อได้รับบุญจนเพียงพอต่อความแค้น  นายเวรก็จะอโหสิกรรมต่อเราหลายครั้งที่ผมติดต่อนายเวรของผู้ที่เจ็บป่วย พบคุยต่อรองขออโหสิกรรม  หลายรายนายเวรขอบุญภาวนา  แสดงว่าโลกวิญญาณมองเห็นพลังบุญของการภาวนาเป็นบุญที่แรงมาก

๔๔
       .  การอุทิศบุญใช้หนี้ให้นายเวรเราต้องทำทุกวัน  เพราะคนแต่ละคนมีนายเวรเป็นล้านๆ  สร้างบุญด้วยวิธีใด  ทาน ศีล ภาวนา 
ทุกครั้งต้องไม่ลืมอุทิศให้นายเวรของข้า   และเน้นอีกว่า  นายเวรที่มาถึงตัวข้า  สรุปแล้วผมใช้วิธีใช้หนี้ให้นายเวรด้วยบุญ  จนเกิดอโหสิกรรมต่อกันทุกคนทำได้  ไม่ต้องพึ่งใครเลยจริงๆ 
       เคยมีผู้ถามว่าแล้วพิธีสะเดาะเคราะห์ที่บางวัดท่านจัดมีพิธีการมากมายมีการสวดมนต์  พรมน้ำมนต์  นอนโลงศพ  คลุมผ้าบังสุกุล  เห็นชีวิตเขาดีขึ้นแล้วจะว่าวิธีการแบบนี้ ไม่ได้ผลได้อย่างไร  ถ้าท่านผู้อ่านท่านใดเคยไปร่วมพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตามาแล้ว  ลองอ่านคำชี้แจงของผมดูด้วยเหตุและผลนะครับ
       บทสวดมนต์ของพุทธศาสนานั้น  ศักดิ์สิทธิ์จริงทุกบท  เมื่อมีผู้สวดนั้นจะเกิดรังสีแผ่ออกมาจากผู้สวด  วิญญาณชั้นต่ำระดับสัมภเวสี  เปรต  อสุรกายต้องรีบหลบไปให้พ้นรัศมี  มิฉะนั้นจะเจ็บปวด  ทรมาน  หรือแขนขาขาดเลยก็เคยพบมาแล้วที่จังหวัดกาฬสิทธุ์  นายเวรที่เล่นงานคนแต่ละคนอยู่ส่วนใหญ่ก็คือสัมภเวสี  เมื่อมีการสวดมนต์เขาเองก็ต้องรีบหนี  ยิ่งพรมน้ำมนต์ก็เหมือนน้ำกรดสำหรับเขา 
       ดังนั้นนายเวรก็ต้องละออกไปห่างเป็นการใช้ฤทธิ์ของพุทธมนต์ขับเขา  ความแค้นของนายเวรยิ่งมากขึ้นอีกเพราะถูกทำร้ายเพิ่ม เมื่อนายเวรจำใจละไปชั่วระยะหนึ่ง  ชีวิต  ความเจ็บป่วยของคนก็รู้สึกดีขึ้น  แต่ผ่านไประยะหนึ่งฤทธิ์ของน้ำมนต์ที่พรมมาหมดไป  ทีนี้ละนายเวรที่ถูกขับไปและมีความแค้นเพิ่มขึ้น  จะพุ่งเข้าเล่นงานคนหนักกว่าเดิมอีก
       สรุปว่าไปขับเขาด้วยฤทธิ์  เขาต้องหลีกหนีด้วยแค้นที่เพิ่มขึ้น พอมีโอกาสกลับมาเล่นงาน  จะหนักกว่าเดิมอีก  และนายเวรของแต่ละคนมีเป็นล้านราย จะต้องไปเข้าพิธีสะเดาะเคราะห์กี่ครั้งจึงจะหมดละ สู้เราอุทิศบุญให้ทุกวันบ่อยๆ เป็นหนทางสันติเพื่อไปสู่อโหสิกรรมต่อกันไม่ดีกว่าหรือ  ทำเอาเองไม่ต้องไปพึ่งใคร
                     เราควรอุทิศบุญให้ใครบ้าง
       เมื่อปี  ๒๕๔๙  ผมได้ไปฝึกปฏิบัติสมาธิ  ที่บ้านอาจารย์วันชัย  แถวเขาไม้เสียบ  ตำบลช่องแค ตาคลี นครสวรรค์ โดยฝึกสายวิชาธรรมะเปิดโลกกับอาจารย์ วันชัย  ศิษย์ปู่โทน  หลำแพร สายวิชาของหลวงปู่เทพโลกอุดร ซึ่งเน้นการถอดจิต เพื่อพิสูจน์โลกวิญญาณ และผู้ที่ถอดจิตไปได้ จะไปเรียนในโลกวิญญาณ กับหลวงปู่เทพโลกอุดรโดยตรง
       ท่านจะสอนด้านวิปัสสนากรรมฐาน มีผู้ที่ถอดจิตได้ไปเรียนกับหลวงปู่ใหญ่หลายคน ทุกวันนี้ก็ยังมีผู้ไปเรียนกันอยู่ พอดีวันนั้น  มีหลวงพี่เต้ย  จากวัดเขาแก้วพยุหคีรี  ได้มาอยู่ที่บ้านอาจารย์วันชัย  หลวงพี่เต้ยท่านเก่งด้าน มโนมยิทธิท่านได้เมตตาสอนมโนมยิทธิให้กับทุกคน  ขึ้นไปกราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็มีคนปฏิบัติได้เป็นบางคน ส่วนผมได้แบบไม่ชัดนัก
      หลวงพี่เต้ยให้พวกเราที่ฝึก อธิษฐานขอบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นำลงมาอุทิศแจกให้วิญญาณทั้งหลาย ที่โลกมนุษย์  และอธิษฐานขอบารมี ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปิดโลกนรกให้ญาติของทุกคนขึ้นมารับบุญได้ 
       ผลปรากฏว่ารอบๆ  ที่พวกผมนั่งปฏิบัติกันอยู่ซึ่งทุกคนอธิษฐานแผ่บุญกุศลที่ได้รับมาให้วิญญาณทั้งหลายนั้น มีวิญญาณล้อมเป็นชั้นๆ  วงในสุด เทวดาจากสวรรค์ซึ่งเป็นญาติของทุกคนที่กำลังปฏิบัติรับเอาผลบุญเต็มที่เลย รับแล้วก็ลอยขึ้นสวรรค์ไป
       วงต่อมาคือเทวดาที่สถิตอยู่ที่โลกมนุษย์ ทั้งพระภูมิเจ้าที่  รุกขเทวดาผู้ที่รักษามนุษย์  ฯลฯ ได้รับบุญเต็มที่เหมือนกันแต่น้อยกว่าพวกแรก  วงต่อมา เป็นพวกสัมภเวสี เปรต อสูรกาย ได้รับบุญแต่น้อยลงเพราะอยู่ห่างออกไป พวกแรกๆ  เขารับเอาไปก่อนมากแล้ว  วงสุดท้ายน่าสงสารมาก  ญาติที่มาจากนรก  ผอมแห้งดำ ดวงตาแห้งผาก
       มีนายนิรยบาลร่างกำยำถือโซ่คล้องคอไว้ ถือหอกยืนคุม โดยสัตว์นรก ๑  ตน  มีนายนิรบาล    ตน  ขนาบข้าง  ไม่มีทางหนีแน่นอนเขาเป็นญาติของคนกลุ่มที่กำลังปฏิบัติและอุทิศส่วนบุญอยู่นี้ อาศัยบารมีพระพุทธเจ้า ท่านเปิดนรกให้ขึ้นมารับบุญชั่วคราว บุญที่แจกออกในวันนั้น เป็นแค่ละอองเล็กๆ 
       ถึงเขาเหล่านั้นแค่นั้นเองพวกเทวดาเอาไปเสียมากเลย  เพราะใครก็อยากได้บุญทั้งนั้นดังนั้นในการอุทิศบุญควรแยกส่งบุญให้เป็นพวกๆจะได้ไม่เกิดการแย่งบุญกันเช่น นั้นอีกผมขอเรียงลำดับความสำคัญของผู้ที่เราควรจะต้องอุทิศบุญให้โดยเริ่มจากผู้ที่มีความสำคัญจากมากไปน้อย
       (ก)  นายเวรที่มาถึงตัว เขาเป็นวิญญาณแค้นที่เป็นเจ้าหนี้เรา เป็นผู้มีสิทธิ์ทำร้ายล้างแค้นเราได้โดยที่เทวดาและวิญญาณที่รักษาตัวเรา  ไม่มีสิทธิ์ขวางกั้น  บารมีพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ในวัตถุมงคลก็กันไม่ได้  เราเคยทำร้ายเขาไว้  เมื่อไรเราจำไม่ได้หรอก  หลายภพหลายชาติ 
       เขาก็สามารถมาล้างแค้นได้  เราต้องใช้หนี้เขาด้วยการอุทิศบุญให้และกล่าวขออภัยขออโหสิกรรมเพื่อไม่ให้เขาทำร้ายเรา  ให้เป็นไปตามแรงแค้น  ต้องให้เป็นรายแรกทุกวัน เพราะถ้านายเวรที่มาถึงตัวเราได้รับบุญ และอโหสิกรรมไปแล้ว  นายเวรคิวต่อไปก็เข้ามาถึงตัวเราอีกคนละรายกัน  เราจึงต้องให้บุญเขาทุกวัน  ผมอุทิศให้ทุกวันเลย  ป่านนี้ยังไม่หมดเลย  บางคนอาจสงสัยว่าเขาจะทำอะไรเราได้ขอยกตัวอย่าง เช่น
     นำเชื้อโรคมาใส่ ในร่างกายทำให้เราเจ็บป่วย  เรากินยาฉีดยารักษา  เชื้อโรคตายไป  ถ้านายเวรยังไม่หายแค้นก็เอาเชื้อโรคมาเติมใหม่จนกว่าจะพอใจ  หรือป่วยจนตายไปเลย  พบมากที่สุดตามโรงพยาบาล  บอกได้เลยผู้ป่วยค่อนโรงพยาบาลถูกนายเวรเล่นงานอยู่แต่คนป่วยเขาไม่รู้  หมอพยาบาลก็ไม่รู้
    -   ทำให้เกิดอุบัติเหตุ  จนบาดเจ็บ  พิการ  เสียชีวิต
    -   ทำให้ครอบครัวแตกแยก
    -   ทำให้กิจการงานที่ทำมาหากินอยู่ล้มเหลว
       ดังนั้น  เราจึงต้องอุทิศบุญให้นายเวรที่มาถึงตัวเราทุกวัน  เราจึงจะปลอดภัยและมีชีวิตราบรื่นผู้คนจำนวนมากเท่าที่ผมพบจากการติดต่อหลังจากเขาสิ้นชีวิตไปแล้วปรากฏว่าเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนอยู่แถวๆ  บ้านของเขาเอง  ไม่ถูกนำตัวไปสำนักพญายม 
       ก็เพราะเขาถูกนายเวรของเขาเล่นงานจนตายด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง  ส่วนอายุจริงในโลกมนุษย์ของเขายังไม่หมด  เช่น  อายุจริง  ๘๐  ปี  แต่ถูกนายเวรทำให้ตายตอนอายุ  ๒๐  ปี  เขาต้องเป็นสัมภเวสีอยู่  ๖๐  ปี  จึงจะหมดอายุ  บุญที่ทำไว้บาปที่ทำไว้ยังไม่ส่งผล  ทางยมโลกก็ยังไม่เอาตัวไป  อดอยากเร่ร่อนมีทั่วไปหมด  นี่แหละครับเขาเรียกว่า    
     อุปฆาตกรรม  จะมีที่ยมโลกเอาตัวไปเลยทั้งที่อายุยังไม่หมดคือพวกที่ก่อบาปกรรมไว้หนักๆ
         (ข)  นายเวรทั้งหลาย  ก็เจ้าหนี้ของเราอีกนั่นแหละ  แต่เขายังไม่ถึงคิวที่จะล้างแค้นเรา  เรารีบอุทิศบุญให้เขาดักหน้าไว้เลย  เรียกว่าใช้หนี้ก่อนดีกว่าให้มาถึงตัว  ผลบุญที่อุทิศให้เขาจะทำให้ความแค้นของเขาลดลงใจเย็นลง  ถ้ามีความแค้นไม่มากพอใจในผลบุญที่อุทิศ  เขาก็ละจากเราไปเลย  เรียกว่าอโหสิกรรม
          (ค) เทวดาและวิญญาณที่รักษาตัว  เรียกรวมเลยจริงๆ  แล้วแต่ละคนมี  เทวดา  2  องค์  ยักษ์  1  นาค  1  คนธรรพ์  1  กุมภัณฑ์  1  รวมแล้ว  6  ท่าน  แต่บางคนที่มีบุญบารมีมากๆ  ก็จะมีมากกว่านี้อีก  อุทิศบุญให้เขาเหล่านี้ทุกวัน
        เพราะเขาถูกส่งลงมาทำหน้าที่รักษามนุษย์ตามคำสั่ง  ของท้าวมหาราชทั้ง 4 คือ ท้าวเวสสุวรรณ ท้าววิรุฬหก  ท้าววิรูปักษ์  ท้าวธตรฎฐ์  เขาก็ลงมาตามคำสั่ง  บุญฤทธิ์ก็มีไม่มาก  เพราะเป็นการลงมาใช้กรรม  พอเราอุทิศบุญให้ทุกวัน  บุญฤทธิ์ของเขาจะมากขึ้น  คุ้มครองเราได้และรักเรามากเพราะเราไม่ลืมเขาเห็นความสำคัญของเขาเหล่านั้น       
          (ง)  ญาติของข้าพเจ้า บรรพบุรุษของแต่ละคน ที่สิ้นชีวิตไปแล้ว มีมากมายทั้งที่จำได้ และไม่รู้เรียกรวมเลยว่าญาติ  วิญญาณใดที่เป็นญาติเขาจะมีสิทธิ์  รับบุญจากเราได้เลย สมมติว่าเราจะอุทิศบุญให้ญาติให้เราส่งให้เป็นกลุ่ม ดังนี้
            *     ญาติที่นรก (ให้มาก ๆ หน่อย) ผู้อยู่ในขุมนรกตื้น ๆ จะได้รับเลย
            *   ญาติที่เป็นผีเปรต ผีเปรตอสูรกาย สัมภเวสี ปีศาจ ปอบ
            *     ญาติที่เป็น ยักษ์ นาค ครุฑ คนธรรพ์ กุมภัณฑ์ กินรี เงือกและในป่าหิมพานต์
              *   ญาติที่เป็นเทวดา
              *   ญาติที่เป็นพรหม
              *   ญาติที่มิได้เอ่ยนาม
       แต่ถ้าต้องการชี้เฉพาะให้กับผู้ใดที่ล่วงลับไปแล้วเช่น  พ่อ  แม่  ลูกก็ขอให้คิดอุทิศอีกครั้งหนึ่งได้  เช่นจะเบิกบุญอุทิศให้พ่อก็คิดอธิษฐานว่า ขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้า ส่งถึงพ่อข้าพเจ้า   เพียงเท่านี้บุญของเราที่เบิกจะพุ่งลงมาจากสวรรค์ลงมาส่งถึงพ่อทันที
          (จ) ทุกวิญญาณที่บ้านของข้าพเจ้า  เหวี่ยงแหเลยครบดี  แล้วที่บ้านเรามีวิญญาณใครบ้างหรือ  โดยทั่วไปก็มี  พระภูมิ  เจ้าที่  วิญญาณที่สถิตย์มากับไม้หรือรุกขเทวา  วิญญาณที่สถิตย์มากับวัตถุมงคล  วิญญาณสัตว์ที่ตายเป็นอาหาร  วิญญาณของสัตว์ที่ตายในบ้านเราเช่น  มด  ยุง  แมลง  หรือจะจี้อุทิศเป็นรายๆ  ก็ได้ถ้ามีเวลาทำ
         (ฉ)  นายเวรที่มาถึงตัวของทุกคนในบ้าน
          (ช)  ทุกวิญญาณที่ สถิตย์อยู่ที่รถของข้าพเจ้า  เช่น  เทวดาที่มาสถิตย์รถหรือแม่ย่านาง  และวิญญาณที่สถิตย์อยู่กับวัตถุมงคลในรถ  ที่พบมีทั้งอยู่กับรถยนต์ มอเตอร์ไซต์
          (ซ) เทวดาและวิญญาณที่รักษาทุกคนในบ้าน
          (ฌ) ผู้มาช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยภายในร่างกายของข้าพเจ้า  เมื่อเราอุทิศบุญให้ผู้รักษาอาการป่วย  ก็เหมือนเราจ้างหมอในโลกทิพย์ที่ท่านมีความสามารถในการรักษาโรค  มารักษาอาการป่วยของเรา
           (ญ) ถ้าพ่อแม่เรายังอยู่ และเราต้องการทดแทนพระคุณท่านด้วยบุญก็ให้อุทิศบุญให้  นายเวร  เทวดาและวิญญาณที่รักษาตัว  ผู้มารักษาอาการป่วยของพ่อแม่
           (ฎ) วิญญาณทั้งหลาย  ครั้งนี้อุทิศแจกนอกบ้านเลย  ทั่วบริเวณแถวๆ  บ้านเรา  เรียกว่า  แจกบุญเอาพวกเพื่อช่วยดูแลบ้านเราและคนในครอบครัว


 การแปลงผลบุญ  อุทิศบุญ
        บางครั้งผมติดต่อวิญญาณที่อยู่ในภูมิต่ำลำบาก  หรือทุกข์ทรมานไม่เคยได้รับบุญ  คิดอธิษฐานบุญเป็นสิ่งที่เขาต้องการไม่เป็น  เหมือนเราเอาเงินให้แมว  แมวใช้เงินไม่เป็น  เราต้องซื้อปลาทูมาให้แมว  คือเปลี่ยนเงินเป็นปลาทู  ก็เป็นลาภปากของแมว
          ดังนั้นในการอุทิศบุญให้กับผู้ที่ไม่เคยได้รับบุญ  และอยู่ในภูมิต่ำผมต้องอธิษฐานแปลงผลบุญก่อน  เช่น 
   ขออำนาจพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าลงมาเปลี่ยนเป็นอาหาร  เสื้อผ้า  ให้กับเปรตตนนี้
        ท่านผู้อ่านถ้าจะนำไปใช้แปลงผลบุญเป็นสิ่งที่วิญญาณต้องการอะไรก็ให้ดัดแปลงคำอธิษฐานเอาเอง  แต่ต้องไม่แปลงเป็นสิ่งของที่เป็นภัย  เช่น  ดาบ  หอก  ไฟ  ให้กับวิญญาณไปทำร้ายผู้อื่น  มันเป็นบาปส่วนการทำทานด้วยเงิน  เช่นเอาเงินเหรียญบาทหยอดตู้บริจาคที่วัด 
      เมื่อเราต้องการอุทิศบุญนี้ให้วิญญาณที่ภูมิต่ำที่ลำบากก็ให้อธิษฐานแปลงผลบุญได้เช่น  หยอดเงิน  ๑บาทใส่ตู้พอหลุดมือให้อธิษฐานในใจทันทีว่า  บุญนี้จงเปลี่ยนเป็นอาหารให้เปรตแถวนี้   เปรตแถวนั้นจะได้รับอาหารทันที
       วิญญาณทั้งหลายเขาเองก็มีการเรียนรู้  ต่อกันมา  ว่าเมื่อได้รับบุญแล้ว  สามารถอธิษฐานเป็นสิ่งที่เขาต้องการได้  จะมีเฉพาะวิญญาณที่กายของเขาเพิ่งตายใหม่ๆ  ยังไม่ทันรู้เรื่องอธิษฐานบุญ  และพวกที่กำลังทุกข์ทรมานจนไม่มี  เวลาคิดอธิษฐานบุญเป็นสิ่งที่เขาต้องการ  นี่คือพวกที่เราต้องอธิษฐานแปลงบุญให้
          

          การรักษาดูแลพ่อแม่และบุคคลที่เรารักด้วยบุญ
       พ่อแม่คือพระอรหันต์ที่ถูกลืมจากลูก  ปัจจุบันนี้ผู้คนดิ้นรนทำมาหากินกัน  วัตถุและกิเลสเข้ามาครอบงำจิตใจคนจำนวนมาก  การทำงานก็มักจะไปอยู่ต่างถิ่นต่างที่  ทิ้งพ่อแม่ผู้แก่เฒ่าที่เคยอุ้มชูเลี้ยงดูเรามา  ไว้ที่บ้านเกิดตามลำพัง 
       ตามประสาสองตายายบางคนปีหนึ่งจะไปเยี่ยมสักครั้ง  ไปก็เอาสุราอาหารไปตั้งวงสุรากันกินกันจนเมาหลับ  เงินทองหมดไปกับการดื่มกินเล่นหมด  พอจะกลับต้องขอเงินจากพ่อแม่  เติมน้ำมันรถกลับอีกก็มี  ผมพบแถวหมู่บ้านที่ลูกๆ  ไปทำงานที่กรุงเทพฯ  แล้วจะกลับบ้านนอกช่วงสงกรานต์  โถเงินสักบาทยังไม่ได้ให้พ่อแม่เลย  กลับยังมาขออีกกรรมจริงๆ 
        แต่คิดอีกที  พ่อแม่เขาสั่งสอนลูกไว้อย่างไร  ทำให้ลูกอย่างไร  มันก็ต้องเป็นอย่างที่พ่อแม่เขาสอนนั่นแหละครับ  ผมอ่านหนังสือจากบ้านธรรมะโตนำ  คำสอนขององค์สมเด็จโต  ท่านสอนไว้ประทับใจดีครับ ถ้าอยากให้ลูกดี  ต้องทำดีให้ลูกดู  ถ้าอยากให้ลูกกตัญญูต้องแสดงให้ลูกเห็น 
       บางบ้านลูกดีเหลือเกินเห็นแล้วชื่นใจ  มาดูแลตลอดสม่ำเสมอ  พ่อแม่อยากกินอะไรจัดหามา  พ่อแม่ป่วยก็รีบพาไปหาหมอดูแลอย่างดี  นี่ลูกดีๆ  ยังมีอยู่  เป็นบุญของพ่อแม่จริงๆ  การตอบแทนพระคุณพ่อแม่นั้น  บุญเกิดกับลูกเท่ากับทำบุญกับพระอรหันต์  แต่คนทั่วไปส่วนใหญ่เขาคิดว่าการทำบุญต้องไปทำบุญกับพระที่วัดถึงจะได้บุญ  นั่นต้องดูเหตุปัจจัยอีกว่าทำบุญที่วัดจะได้บุญมากมั๊ย  ขึ้นอยู่กับ

๕๖
        1.วัตถุทานนั้นบริสุทธิ์  ได้มาโดยสุจริต  และไม่ผิดวินัยสงฆ์ไม่ผิดกาลเวลา
        2.เจตนาในการทำบุญบริสุทธิ์  ไม่ใช่ทำเอาหน้าหรือตัดรำคาญ
        3.บุคคลบริสุทธิ์  คือ  ผู้ทำทานมีศีลบริสุทธิ์  ภิกษุมีศีลบริสุทธิ์ถ้าภิกษุไม่มีศีลบริสุทธิ์  ไม่ปฏิบัติตัวตามพระธรรมวินัย  อันนี้บุญที่ได้รับจะมีน้อยนิด  น้อยกว่าเอาเงินให้ขอทานอีก  เพราะภิกษุที่ไม่ปฏิบัติตัวตาม พระธรรมวินัย  แล้วยังดำรงตนเป็นภิกษุนั่น คือผู้ลวงโลกและบ่อนทำลายศาสนา 
        คำสอนของพระพุทธเจ้าให้เสื่อมไปจากจิตใจของพุทธศาสนิกชน  ด้วยการปฏิบัติของตนในคราบของภิกษุนั้น  ก็เท่ากับสนับสนุนผู้ทำลายศาสนาของพระพุทธองค์  แล้วทำไมว่าเอาเงินให้ขอทานยังได้บุญมากกว่า  ก็เพราะ  ขอทานก็คือคนที่แสดงสภาพที่ลำบากยากแค้นจนต้องขอทานจริง  ไม่ได้โกหก     หลอกลวงเรา  (ยกเว้นพวกแกล้งทำพิการมาหลอกลวงขอทานเป็นอาชีพนะครับ)
       การตอบแทนพระคุณพ่อแม่ที่ดีที่สุด  คือ  การให้ธรรมะกับพ่อแม่  เป็นการทดแทนพระคุณสูงสุด  เราต้องหาวิธีการให้ธรรมะให้เหมาะ  เพราะคนแก่มักมองว่าเราเป็นเด็ก  จะมาสอนธรรมะให้คนแก่มันจะมากไปแล้ว  ข้าเลี้ยงเอ็งสอนเอ็งมา  หนอยแน่ะ!  พอโตขึ้นมาดันสอนธรรมะให้พ่อแม่ฟัง  ทำอย่างนั้นไม่ได้นะครับ 
        ต้องใช้วิธีหาหนังสือธรรมะที่พ่อแม่สนใจมาให้อ่าน  (หมายถึงพ่อแม่ชอบอ่านนะ)  แล้วหนังสือนั้นต้องไม่เกินภูมิปัญญาที่ท่านมี  ถ้าพ่อแม่รู้แค่ทำบุญใส่บาตร  ทอดกฐิน  ฝังลูกนิมิต  เราก็หาหนังสือพวกกฎแห่งกรรมมาทิ้งไว้ให้อ่าน  อย่าไปเอาประเภทธรรมะสูงๆ  เกี่ยวกับวิปัสสนา 
        หรือพระไตรปิฏกมาให้อ่านมันเลยหัว  ยังอีกเดี๋ยวนี้  VCD,  DVD  เสียงบรรยายธรรมที่เหมาะสมกับภูมิธรรมทานเยอะครับ  แต่ต้องเปิดดูตามอินเตอร์เน็ต
จะพบที่เขาทำขายก็มีมากเช่นวัดต้นสน  จังหวัดอ่างทอง วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี วัดมหาธาตุ  กรุงเทพฯคงมีอีกมากหลายวัดจัดธรรมะไว้บริการประชาชนในรูปของหนังสือและแผ่น CD บางอย่างที่ลูกหามาให้พ่อแม่แล้วไม่เกิดบุญ  ก็มีนะครับ  เช่น
. ไปหาการละเล่น  มาให้พ่อแม่ดูอันนี้เป็นการสร้างกิเลสแต่ถ้าท่านชอบดูลิเก  ก็หา VCD ลิเกมาให้ท่านดูสบายใจได้  บุญไม่มีก็ช่าง
.          หาสุราเบียร์ มาให้พ่อแม่กิน   อันนี้ผิดศีลข้อ ๕ ข้อสุรา
. เอาสัตว์เป็นๆ  มาขังไว้ให้พ่อแม่ทำอาหาร
. หาอีหนูเอ๊าะๆ  มาให้พ่อหาปืนไว้ให้พ่อยิงขโมย
    


   ที่นี้กลับมาเรื่องการอุทิศบุญช่วยพ่อแม่เรา  ถ้าพ่อแม่เสียชีวิตแล้ว  เราสามารถอุทิศบุญตรงถึงท่านเลย  โดยบุญจากการทำทานให้คิดให้พ่อแม่ตอนวัตถุทานหลุดจากมือให้คิดอุทิศทันที  หรือบุญจากการเบิกบุญ  นี่คือลูกที่ไม่ได้ปฏิบัติธรรมสามารถทำได้ 
       ถ้าลูกเป็นผู้รักษาศีล  ปฏิบัติภาวนาก็สามารถอุทิศบุญใหญ่ให้พ่อแม่ได้มหาศาลยิ่งกว่าบุญชั้นทานอีกถึงตรงนี้ขอย้ำสักหน่อย  ถ้าเราสอนลูกเราให้รู้จักทาน ศีล ภาวนา  ตั้งแต่เด็กๆ  เราทำให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยนะ  จากเด็กจนถึง  ๑๐ ขวบจะเป็นช่วงที่เด็กจำไว้ในจิตใต้สำนึกตลอดชีวิต  เพราะเด็กคือผ้าขาว 
      พ่อแม่จะระบายสีไหนก็จงบรรจงสร้างสรรค์เอาเอง  ถ้าลูกรู้จักทาน  ศีล ภาวนา  เขาต้องเป็นคนดีของสังคม  และที่สำคัญเมื่อเราผู้เป็นพ่อแม่  สิ้นจากโลกนี้ไปแล้ว ลูกเราจะอุทิศบุญให้เราได้อีกอย่างมากมาย  พ่อแม่ทั้งหลายลองทำดูซิครับถ้าพ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่จะอุทิศบุญให้พ่อแม่อย่างไร  อ๋อ!  ง่ายมากขอแยกเป็นข้อให้เลยนะครับ
       ๑.พ่อแม่เรายังไม่ต้องอุทิศบุญให้ท่าน  เพราะเป็นมนุษย์ไม่ใช่วิญญาณยังรับบุญไม่ได้
      ๒.อุทิศบุญให้เทวดา  ยักษ์    คนธรรพ์  กุมภัณฑ์  นาคและทุกวิญญาณที่รักษาพ่อ แม่ เพื่อจะได้มีพลังดูแลคุ้มครองพ่อแม่เรา
       ๓.อุทิศบุญให้พระภูมิเจ้าที่  ผู้ที่สถิตย์อยู่ในบ้าน  เช่น  นางไม้  ผู้ที่สถิตอยู่ตามสิ่งศักดิ์สิทธิ์  เช่นพระเครื่อง  หรือใช้คำว่าทุกวิญญาณที่สถิตย์อยู่ที่บ้านพ่อแม่  ช่วยดูแลพ่อแม่ข้าด้วย
       ๔.อุทิศให้นายเวรที่มาถึงตัวพ่อแม่ข้า  และผู้ที่ทำให้พ่อแม่ข้าป่วย
        1. อุทิศให้เชื้อโรคในร่างกายพ่อแม่  การเจ็บป่วยจะน้อยลงได้
        2. อุทิศให้นายเวรทั้งหมดของพ่อแม่
        3. อุทิศให้ผู้ช่วยรักษาอาการป่วยของพ่อแม่
        4. อุทิศให้ญาติพี่น้องของพ่อแม่ในโลกวิญญาณ
        5. ขอบุญของข้าลงมาเปลี่ยนเป็นร่างพ่อแม่  พร้อมดาบส่งให้นายเวรของพ่อแม่ที่ต้องการข้อ    นี้แปลกไหมครับ!  ผมยังไม่ได้เขียนวิธีการแปลงบุญเป็นร่างให้นายเวร  แต่ผมเองใช้มานานแล้ว  ขออธิบายตรงนี้ก็แล้วกัน  ผมได้ดู  VCD  ของหลวงพ่อเกษม  วัดป่าสามแยก  อำเภอน้ำหนาว  จังหวัดเพชรบูรณ์ 
        ท่านได้พูดถึงการแปลงบุญเป็นร่างของเราให้นายเวรที่แค้นเรามากอยากฆ่าเรา  พออธิษฐานเบิกบุญลงมาเป็นร่างเรา  จะเกิดเป็นร่างเราจำนวนมากไปให้นายเวรของเรา  ฆ่าๆๆๆๆ  จนพอใจ  เขาจะหายแค้นเปลี่ยนเป็นรับบุญจากเราแล้วอโหสิกรรมแก่เรา  ผมมาคิดดูน่าจะดีนะเลยลองพิสูจน์ 
       คือผมอธิษฐานเบิกบุญของผมมาเป็นร่างพ่อแม่ผม  ให้นายเวรที่แค้นพ่อแม่ผมแล้วลองให้พวกผมตามพิสูจน์ดูปรากฏว่าเกิดเป็นร่างพ่อแม่ผมจำนวนมาก  และถูกนายเวรที่แค้นทำร้ายร่างบุญนั้นจนตายไปมากมาย  ลองติดต่อถามนายเวรของพ่อแม่ดูว่าพอใจหรือยัง  เขาบอกว่ายังเอามาอีก  ขอดาบขอเขียงด้วยจะสับให้เละเลย 
         ตกลงผมจึงต้องแปลงผลบุญเป็นร่างให้พร้อมดาบพร้อมเขียงให้ทุกวันเลย  แปลกดีนะครับแต่ก็ไม่เสียหายอะไรเราเบิกจากบุญของเราเอง  ใครจะนำไปลองทำหรือประยุกต์ใช้ก็ได้นะครับไม่สงวนสิทธิ์                                                      ที่นี้ลูกเรา  สามีภรรยา  และบุคคลที่เรารักล่ะ  ก็ใช้วิธีนี้แหละครับที่เขียนไว้    ข้อนี่แหละ  นำมาประยุกต์ส่งบุญให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเราได้ทั้งนั้น  ผมเองทำทุกวันเลย  เมียผมทำอาชีพค้าขายครับ  ผมก็ต้องเพิ่มเติมอีกหน่อยคือ
        -  อุทิศบุญให้ผู้ช่วยหาลูกค้าให้
        -  อุทิศบุญให้เทวดาและวิญญาณที่รักษาลูกค้าของเมียทุกคน  (เพื่อเขาจะได้ดลใจให้มาตัดผ้ากับเมียผมอีก)
ส่วนลูกผม  ยังเรียนอยู่มัธยม  และรู้เรื่องอุทิศบุญดีแล้วก็ตามผมเป็นพ่อก็ต้องเติมบุญให้อีก  ดังนี้
        - อุทิศบุญให้ผู้ติดตามดูแลคุ้มครองลูกทั้งที่บ้านและโรงเรียน
       - อุทิศบุญให้ผู้คนดลใจให้ลูกผมประพฤติตัวไม่เสียหาย
       - อุทิศบุญให้ทุกวิญญาณที่โรงเรียนของลูก                                                            
       -  อุทิศบุญให้เทวดาและวิญญาณที่รักษาครูของลูกสาวผมเองทำอย่างนี้จากการคิดประยุกต์วิชาอุทิศบุญเอาเอง  ส่วนใครจะนำไปประยุกต์ใช้อย่างไรก็พิจารณาเอาเองครับ
                        การรักษาโรคด้วยบุญ
       คนเราเจ็บป่วยเป็นเรื่องธรรมดา  แต่ถ้าการเจ็บป่วยนั้นเรื้อรังรักษาหายยากเป็นๆ  หายๆ  มีทั้งเกิดจากได้รับเชื้อโรคเข้าไปหรือการเจ็บป่วยจากอวัยวะภายในบกพร่อง  เท่าที่เคยช่วยตรวจสอบดูปรากฏว่าพบสัมภเวสีชายหรือหญิงเป็นนายเวรมากระทำ 
       โดยการนำเชื้อโรคเข้าไปใส่ในตัวคนให้ป่วย  หรือเข้าไปกดประสาทให้เป็นอัมพฤกษ์  อัมพาต  สารพัดที่จะพบ  เมื่อผมพบผมจะเอาบุญให้เขาก่อนให้เขาสบายใจอารมณ์ดี  แล้วขอเจรจาต่อรอง  ส่วนใหญ่จะสำเร็จ  คือเขาเองก็อยากไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่าสัมภเวสี  โดยขอบุญสังฆทานและบุญภาวนาเป็นส่วนมาก 
         ดังนั้นถ้าท่านผู้อ่านหรือญาติพี่น้องท่านป่วยเรื้อรังอยู่ก็ลองทำดูซิครับ  ไม่เสียหายอะไร  เราอุทิศบุญให้นายเวรที่ทำให้ป่วยกับเชื้อโรคที่ทำให้ป่วย  บ่อยๆ  อาการป่วยจะดีขึ้นรวดเร็วมาก  แต่การรักษาทางแพทย์ก็ต้องรักษาต่อไปนะครับ  เรียกว่าใช้ช่วยกัน    ทางเลย  ไวดี

๖๒
        มีนายเวรบางเจ้า  ติดต่อขออโหสิกรรมด้วยบุญ  ขอยังไงก็ไม่ยอมไม่รับเพราะแค้นมาก  ไม่ต้องมาขอร้อง  จะทำให้ป่วยจนตาย  ถ้าไม่ยอมจริงๆ  เราก็หมดสิทธิ์ต่อรอง  แต่เราก็สอนคนป่วยให้เขาเข้าใจว่านี่เป็นกรรมไปทำเขาไว้หนักหนาสาหัสมาก  ให้ทำอย่างนี้  คือให้ผู้ป่วยตื๊อให้บุญบ่อยๆ  โดยอธิษฐานว่า
          ขออำนาจพระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์โปรดดลบันดาลให้บุญขอข้าพเจ้าลงมาส่งให้กับนายเวรและเชื้อโรคที่ทำให้ข้าพเจ้าป่วย
       ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมไม่คิดจองเวรกับท่าน  ส่วนท่านยังคิดจองเวรกับข้าพเจ้าก็แล้วแต่ท่านเถิด  ข้าพเจ้าจะขออุทิศบุญให้ท่านทุกวัน
          วิธีนี้เรียกว่าตื้ออุทิศบุญให้จนใจอ่อน  เมื่อนายเวรพอใจนำเชื้อโรคออกจากร่างกายเรา  กายเนื้อของเราก็รักษาด้วยยา  จะหายเร็ว  แต่ใช่ว่าจะใช้ได้ผล  ๑๐๐% ก็หาไม่ นายเวรที่แค้น เล่นงานเสียจนตายเลยก็มีมันเป็นสิทธิ์ของเขา ที่จะกระทำจนสมกับความแค้น  ก็ต้องขอให้ผู้ป่วยก้มหน้ารับกรรม  คิดอโหสิกรรมเป็นอภัยทานให้เกิดบุญเถิด

          

         ประสบการณ์วิญญาณและการอุทิศบุญ   
     ของคนธรรมดา วิญญาณหรือที่คนเราเรียกว่า ผีมีจริงหรือเมื่ออายุ ๑๗ ปีมีอาคนหนึ่งที่ผมนับถือให้กุมารทองผมมาเลี้ยงไว้ผมก็ไม่รู้ว่าในขวดนี้มีวิญญาณกุมารทองอยู่จริงไหมพอดีรู้จากเพื่อนว่ามีลุงคนหนึ่งชื่อทองคำท่านตรวจสอบด้วยสมาธิได้ผมจึงเอากุมารไปให้ท่านดูท่านจับอยู่ครู่หนึ่งแล้วบอกว่ามีกุมารอยู่จริง  ผมก็รับฟังแต่ก็ไม่สามารถรู้ชัดแจ้งได้พอดีลูกชายของลุงทองคำ
                     พิสูจน์วิญญาณ
         เขามีสมาธิดีสามารถให้กุมารทองเข้าทรงได้  จึงลองให้เข้าทรงกุมารทองของผมดู  ปรากฏว่าพอกุมารเข้าทรงร่าง  ร่างกายเขาสั่นตลอดเวลา แต่สามารถพูดคุยกับผมเป็นเสียงเด็ก คุยกันเรื่องส่วนตัวของผม  ที่ผู้ทรงอยู่เขาไม่รู้เรื่องด้วยได้จริง ความเชื่อเรื่องวิญญาณก็มีมากขึ้น  ภายหลังผมได้ทั้งรักยม  และกุมารมาอยู่ด้วยจำนวนมาก  เวลากินข้าวต้องเรียกกินด้วยทุกครั้ง  บางครั้งนอนพอใกล้จะหลับจิตตกภวังค์ 
      จะมีมือเล็กๆ  มาจับขาหรือสะกิดเป็นประจำ จนชิน  ตอนนี้มั่นใจมากว่าวิญญาณมีจริง ผมนำกุมารและรักยมจำนวนหนึ่งไปไว้ที่บ้านพ่อแม่ ที่สิงห์บุรีบอกท่านว่าเอามาช่วยเฝ้าบ้าน ท่านเองก็ฟังแต่ไม่เชื่อไม่สนใจ ตกกลางคืน  กุมาร  รักยมวิ่งเล่นกันในบ้านได้ยินเสียงแต่ไม่เห็นตัว
      พอแม่ผมนอนหลับจะมีเด็กๆ  เข้ามานั่งทับอกกวนไม่ให้นอน ผลปรากฏว่าทั้งพ่อ แม่  เชื่อสนิทเลย  และช่วยผมเลี้ยงเด็กๆ  เหล่านี้ เพราะผมไม่ได้อยู่บ้านกับท่าน  เวลามีคนมาเรียกหาพ่อแม่ผม  ยามที่ไม่มีคนอยู่บ้าน  จะมีเสียงคนในบ้านรับปากแทน ยามค่ำๆ  คนแถวนั้นจะเห็นเด็กๆ  วิ่งเล่นอยู่ในบ้านหลายคน  ที่รู้เพราะเขามาบอกให้ฟัง เพราะสงสัยว่าเด็กๆ  มาจากไหน
        วิญญาณเหล่านี้มาอยู่กับผม  โดยผมเองรู้วิธีเลี้ยงเขาด้วยการเรียกกินด้วยกัน   แต่พอมามีความรู้เรื่องวิธีการให้บุญ ปัจจุบันเด็กๆ เหล่านี้ได้รับบุญตลอด และเขาเหล่านั้นปฏิบัติธรรมจนสภาพวิญญาณเขาเปลี่ยนเป็นเทพกุมารหมดแล้ว  อาคมที่สร้างปลุกเสกเขามา หมดสภาพควบคุมเด็กเหล่านั้น  แต่เด็กเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ไปไหน คอยอยู่ช่วยงานกับผม
                      พิสูจน์นรกสวรรค์
     นรกสวรรค์มีจริงหรือ  เราพิสูจน์ด้วยตาเนื้อไม่ได้
หรอก ต้องพิสูจน์ด้วยตาในคือ ดวงตาจากสมาธิผมพยายามพิสูจน์ด้วยวิธีการต่างๆ มามากแต่ไม่สำเร็จ คือไม่เห็นได้แต่คุยกับวิญญาณด้วยวิธีเข้าทรง ผีถ้วยแก้ว จนกระทั่งผมได้อ่านหนังสือ ของหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานีท่านสอนเรื่องการฝึกสมาธิเพื่อพิสูจน์โลก วิญญาณผมได้ทดลองฝึกกับครูฝึก  ที่วัดปรากฏว่าครั้งแรกไม่รู้เรื่องเลย  นั่งเพ่งจนปวดลูกตา  ก็ไม่เห็นอะไรเลย กลับบ้านด้วยความผิดหวัง แต่ไม่ยอมท้อถอย  ลองศึกษาวิธีการของหลวงพ่อวัดท่าซุง  คำอธิบายต่าง ๆ  พยายามทำความเข้าใจ และลองไปฝึกที่วัดต่ออีก ๖ ครั้ง ปรากฏว่าครั้ง
        สุดท้ายผมเริ่มเข้าใจการวางจิตพุ่งจิต  ปรากฏว่าผมเห็นว่าตัวผม  ได้ขึ้นไปที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์  ได้ไปกราบพระอินทร์และแม่ศรี  แต่การเห็นยังไม่ค่อยชัดเจนนัก  ทันใดนั้นก็มีนางฟ้าท่านหนึ่ง วิ่งเข้ามาหาผมด้วยอาการดีใจ  พอมาถึงผมก็เปลี่ยนสภาพร่างกายที่นุ่งผ้าถุงมีสไบเฉียง อายุประมาณ  ๑๖-๑๗  ปี กลายร่างเป็นยายของผมที่ชื่อยายจำปา  ซึ่งท่านเสียชีวิตไปประมาณ ๕  ปีแล้ว
        ตอนท่านจะสิ้นใจท่านพุทโธจนหมดลมหายใจ  ด้วยความดีใจที่ได้พบยาย ทำให้จิตผมหลุดจากสมาธิ  ร่วงลงมาที่ร่างที่นั่งอยู่ที่วิหาร  ๑๐๐ เมตร วัดท่าซุง พยายามรวมสมาธิเพื่อขึ้นไปใหม่ แต่ก็ไม่สำเร็จ พอหมดเวลาสอนสมาธิ  ผมขออนุญาตครูฝึก  ขอถามปัญหาและการวางจิต  ตัวต่อตัว 
        ครูฝึกท่านเลยสอนการวางจิตและให้พุ่งมองลงไปที่นรก  พอผมทำจิตตามอย่างเต็มที่ปรากฏว่าผมเห็นภาพของกระทะทองแดงมีคนสภาพไม่น่าดู  ลอยคอกันอยู่ในกะทะทองแดงด้วยความทรมานและเห็นนายนิรยบาลกำลังกรอกน้ำทองแดงให้สัตว์นรกอยู่  การเห็นเกิดขึ้นชั่วขณะจิตผมก็ตกจาก
       สมาธิด้วยความตื่นเต้นและสังเวช  หลังจากกลับจากวัดผมพยายามฝึกเองหลายครั้ง แต่ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จ  จนจับเคล็ดว่าตอนเราตื่นนอนกลางดึกจิตเรายังอยู่ในภวังค์ แต่มีสติลองใช้เวลานี้ทำสมาธิ เพื่อพิสูจน์โลกวิญญาณดู  เห็นท่าจะดี พอทดลองปรากฏว่าได้ผลดี  จิตรวมได้ดี  สามารถเห็นโลกวิญญาณที่เราต้องการไปดูได้  และไม่ต้องกลัวอะไร  เพราะเราอาศัยบารมีพระพุทธเจ้าไปกับเรา
        สรุปแล้วผลการพิสูจน์โลกวิญญาณ  ส่วนหนึ่งที่ผมประสพมานี้ ทำให้ผมเชื่อโดยสนิทใจว่าวิญญาณ,  นรก,  สวรรค์,  นิพพานมีจริง  แต่จะพิสูจน์ด้วยตาเนื้อไม่ได้  ต้องใช้สมาธิปรับคลื่นจิตของเราให้ละเอียด  จนสามารถสื่อสารตรงกับโลกวิญญาณได้  ก็จะสามารถพิสูจน์โลกวิญญาณได้เอง 
         ผมเองการเห็นการรู้ยังไม่ชัดเจนมากนัก  เนื่องจากกิเลสยังมีมาก  แต่ผู้หนึ่งที่ไปฝึกด้วยกัน  เขาเห็นชัดเท่าลืมตาและพูดคุยสื่อสารกันได้เลย ทั้งๆ  ที่ไปฝึกเพียงครั้งแรก  และเมื่อกลับมาอยู่บ้าน  บุคคลผู้นี้ทดลองดูก็สามารถติดต่อโลกวิญญาณได้ภายใน  ๑๐  วินาที  ซึ่งเป็นผลบุญปฏิบัติในอดีตชาติของเขาเองที่ส่งผลต่อเนื่องมาในปัจจุบัน 
          เรื่องอย่างนี้แข่งกันไม่ได้  เพราะผลบุญแต่อดีต
ทำมาไม่เท่ากัน  ท่านใดอยากพิสูจน์โลกวิญญาณต้อ
ลงมือปฏิบัติด้วยตัวเอง จะพิสูจน์ เมื่อพบเห็นแล้ว 
จะไม่กล้าทำบาปเลย จะมุ่งแต่ทำบุญสร้างบารมี  เพื่อหนีนรกไปสู่ภพภูมิที่สูงขึ้นจนถึงพระนิพพาน
 และเมื่อทำจนพร้อมแล้วจะไม่กลัวความตาย  ไม่กลัวผี  เพราะรู้เรื่องดีแล้ว
           วิญญาณพ่อตาผม
       มาวันหนึ่งได้รับข่าว พ่อตาของผมชื่อชุมพล  อยู่ที่อำเภอยางตลาด  จังหวัดกาฬสินธุ์  เสียชีวิต  ผมได้ไปร่วมงานศพ  ศพจะตั้งที่บ้านมีการสวดศพและมีการทำบุญเลี้ยงพระตามประเพณี  กลางคืนตอนดึกมีการตั้งวงเล่นการพนัน มีสุราอาหาร  ซึ่งผมดูแล้วบุญคงจะมีถึงผู้ตายน้อยมาก  เพราะเขาทำตามประเพณีไม่ได้มีจิตในทางกุศล จึงเกิดความคิดจะชวนวิญญาณพ่อตากลับมาภาคกลางด้วยแต่จะใช้วิธีใดดี  อยากนำวิญญาณมาแล้วทำบุญให้ใหม่  เพื่อให้วิญญาณได้รับบุญมาก ๆ ในวันที่นำศพไปทำการฌาปนกิจที่วัดป่าของหมู่บ้าน  ที่
เผาศพเป็นกองฟอน แบบสมัยก่อน  เอาฟืนทับศพแล้วเผากันเห็น ๆ  ว่าศพไหม้ไปถึงไหนเห็นหมดเลยซึ่งให้อารมณ์ในการปลงสังขารได้ดีมาก
        เย็นวันนั้นมีการนิมนต์  พระมาสวดที่บ้านเพื่อเป็น ศิริมงคล  พอค่ำลงประมาณ  ๒ ทุ่ม  ผมก็รับหน้าที่ขับรถนำพระกลับไปส่งวัด  เมื่อถึงวัดซึ่งมืดมากแล้วเพราะเป็นวัดป่า  พระท่านลงมาจากรถไปหมดแล้วผมเกิดความคิดกะทันหันว่า  เราเข้าไปชวนพ่อตาที่กองฟอนให้ตามไปภาคกลางกับผมดีกว่า เลยขับรถไปจอดริมป่าช้าส่องไฟรถเข้าไปพอเห็นทาผมเดินเข้าไปในป่าช้าไปที่กองฟอน เห็นศพพ่อตาไหม้เกือบหมดแล้ว หัวกะโหลกตกลงที่พื้นดินส่วนซี่โครงกำ ลังไหม้ไฟอยู่  ผมไปยืนพูดกับพ่อตาที่ตรงกองฟอน  จนคิดว่าพ่อตาคงได้ยินและเข้าใจ  ก็ออกจากป่าช้าขับรถกลับ
        บ้าน ท่านอย่าคิดว่าผมบ้านะเพียงแต่ผมคุ้นเคยกับวิญญาณต่าง ๆ มาพอสมควรแล้ว  ความรู้สึกนึกคิดของเขาก็เหมือนเช่นเรานี่เอง  จะไปกลัวกันทำไมเมื่อผมเดินทางกลับบ้านที่ชัยนาท  ระหว่างขับรถภรรยาผมเห็นพ่อนั่งมาในกระบะหลังรถ  เป็นการเห็นแบบชั่วขณะ แว๊บๆ
      ก็บอกผมให้รู้ว่าพ่อมาด้วย  ผมก็เลยอธิบายให้ภรรยาผมฟังว่าผมชวนท่านมาเองจะทำบุญให้ใหม่  พอถึงบ้านของผมแล้ว คืนนั้นเมื่อผมและภรรยาเข้านอนไปได้พักเดียว  ภรรยาผมก็พรวดพราดลุกขึ้นอย่างตกใจ  บอกว่าพ่อเข้ามากอดเธอ  ผมบอกไม่ต้องตกใจหรอกพ่อเราเอง ท่านบอกให้รู้ว่าท่านตามมา  ภรรยาก็ลงนอนต่อ อีกพักเดียวผมเริ่มมีความรู้สึกมีเงาดำๆ เข้ามาที่ปลายเท้าผมแทรกเข้ามาจากปลายเท้าขึ้นมาเรื่อยๆ
        จนถึงอกผมมีสติและรู้ว่าคือพ่อตา  พยายามบอกว่าท่านมาด้วย  ผมปล่อยให้ ท่านเข้ามาถึงอก  แต่จะไม่ยอมให้ขึ้นถึงหัว  เพราะวิญญาณอาจเข้าควบคุมจิตเราได้  ผมรวมพลังจิต  ผลักวิญญาณพ่อตาที่ทับอยู่จนหลุดออกจากปลายเท้า  และบอกกับท่านว่า พรุ่งนี้จะไปทำสังฆทานให้ที่วัดท่าซุง  ขอให้เตรียมรับบุญนะ

รุ่งขึ้นผมกับภรรยาได้ไปทำสังฆทานที่วิหาร ๑๐๐ เมตร 
        โดยทำอย่างที่คนทั่วไปเขาทำกัน  คือ  นำพานสังฆทานที่มีพระพุทธรูปด้วย มาคุกเข่า อธิษฐาน ขออุทิศผลบุญนี้ให้กับพ่อตา แล้วลุกขึ้นนำไปถวายพระ เป็นอันเสร็จสิ้นการทำบุญ  ผมจึงบอกพ่อตาให้กลับไปอยู่บ้านที่กาฬสินธุ์เมื่อผมมีเวลาว่างผมกับภรรยาได้กลับไปเยี่ยมแม่ยายที่กาฬสินธุ์  ตกกลางคืนผมนอนคนเดียว พอเริ่มจิตตกภวังค์ใกล้หลับ  เงาดำก็ปรากฏที่ปลายเท้า ไม่ใช่เห็นด้วยตาเนื้อแต่เป็นความรู้สึก  และเริ่มแทรก เข้าจากปลายเท้าขึ้นมาอีกแล้ว  ผมก็คอยกำหนดจิตดันออก ก็เป็นการฝึกจิตได้สนุกวิธีหนึ่ง ถ้าเราไม่กลัว  ปรากฏว่าดันกันไปกันมาจนไก่ขัน  ผมยอมแพ้เพราะง่วงมากแล้วบอกพ่อพอแล้วผมง่วงจะนอน 
      ท่านจึงละไปในเวลากลางวันผมช่วยเดินสายไฟภายในบ้าน ปรากฏกลิ่นเหม็นเหมือนตัวอะไรเน่า  มองหาเท่าไรก็ไม่พบ  พอพูดว่าสงสัยพ่อเท่านั้นกลิ่นหายเลยผมชักสงสัยแล้วว่าผมทำบุญสังฆทานซึ่งเป็นบุญใหญ่  ทำไมวิญญาณจึงแสดงกลิ่นเหม็นซึ่งแสดงว่าอยู่ในภูมิที่ลำบาก
       แต่ยังไม่ได้พิสูจน์ดู  หลังจากพ่อตาตายไป ปรากฏว่าวิญญาณท่านวนเวียนอยู่ที่บ้านท่านประมาณ ๒  ปี  แล้วหายเงียบไปเลย  ตอนนี้ผมเริ่มค้นหาความจริงจากวิญญาณพ่อตาแล้ว  จึงให้ท่านผู้ได้มโนมยิทธิเต็มกำลัง  (ตัวผมเองได้เพียงครึ่งกำลัง)  ทำการติดต่อดู ปรากฏว่าพ่อตาผมตาย                                                          
      ก่อนอายุขัย เพราะนายเวรมาเล่นงาน จนป่วยเป็นมะเร็งกระดูกตาย  เพราะอายุยังไม่หมด จึงเป็นสัมภเวสีอยู่พักหนึ่ง  เมื่อหมดอายุ  ยมฑูตจึงนำตัวไปสอบสวนที่ยมโลกและถูกตัดสินลงโทษข้อเสพสุรา  ถูกกรอกน้ำทองแดงอยู่  ปรากฏว่าบุญที่ผมทำสังฆทานให้ท่านได้เพียงเล็กน้อยจากการอนุโมทนา 
        แต่ไม่ได้ผลบุญตรงจากการอุทิศ  ซึ่งผมก็ยัง งงอยู่ว่าเราทำถูกแล้วทำไม  ไม่ได้รับในตอนนั้นความรู้จากการศึกษา  ด้านโลกวิญญาณยังไม่มาก  จึงไม่เข้าใจวิธีการที่จะช่วยพ่อตาผมให้พ้นจากการลงโทษได้อย่างไร  ก็ยังพยายามทำบุญให้ด้วยวิธีเดิมเป็นประจำ
        หลังจากนั้นผ่านมา ๑ ปีลูกชายอีกคนหนึ่งของพ่อตา  เรียนจบมาก็ได้ทำการบวช  พร้อมทั้งตั้งใจปฏิบัติธรรมพอใช้ได้  เพื่ออุทิศบุญให้พ่อ  พวกผมลองติดต่อดูวิญญาณ พ่อตาอีกครั้ง  ปรากฏว่าท่านไปอยู่ที่สวรรค์ชั้น ๑  จาตุมหาราชิกา เลยสอบถามพ่อตาว่ามาอยู่สวรรค์ได้อย่างไร  ท่านบอกไม่รู้เหมือนกัน  ระหว่างถูกลงโทษอยู่ที่นรก อยู่ๆ 
       มีลำแสงบุญสีขาวพุ่งลงมาที่ตัวท่าน  แล้วท่านก็หลุดลอยขึ้นมาอยู่ที่สวรรค์ที่ชั้นนี้  ผมจึงรู้ว่านี่เอง  บุญบวชของลูกที่ตั้งใจบวชปฏิบัติตามพระวินัย  ผลบุญไปปรากฏถึงบิดามารดาทันที โดยไม่ต้องอุทิศบุญ  ดังนั้นท่านจึงได้รับบุญเต็มที่  โทษถูกระงับไว้ก่อนให้ขึ้นไปรับบุญก่อน  แต่ปัญหาคือ ผมทำบุญอุทิศให้ตั้งหลายครั้ง ทำไมส่งไม่ถึง                   
                   เราควรอุทิศบุญแยกเป็นกลุ่ม ๆ
          ญาติที่นรกลำบากที่สุด  ผู้ที่อยู่ในขุม  1 – 5  ตามข้อศีล  5  ถ้าพลังบุญที่ส่งเพียงพอ  บุญนั้นจะประกันตัวให้ญาตินั้นหลุดขึ้นมาเป็นสัมภเวสีบนโลกมนุษย์  นรกระงับการลงโทษไว้ก่อน  แต่โทษมิได้หมดยังอยู่  เมื่อญาติหลุดขึ้นมาแล้วไม่ต้องห่วงเพราะขณะนี้  พระภูมิ  เจ้าที่  เทวดา  ทุกสถานที่กำลังจัดเก็บวิญญาณเหล่านี้มาปฏิบัติธรรม  เพื่อให้แรงบุญสูงขึ้น  จนได้ไปรับผลบุญที่สวรรค์ชั้น  1
          ดังนั้น  ทุกคนควรจะส่งบุญถึงญาติที่นรกทุกวัน  โดยเฉพาะยิ่ง  บุญภาวนา  จะช่วยได้มากจริง ๆ
      
การขอบุญบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า
บุญบารมีของพระพุทธเจ้ามีอยู่เต็มจักรวาล  พลังบุญที่เคยขอลงมาเป็นพลังที่สว่างมาก  เราทุกคนสามารถขอบารมีท่านได้  แต่ต้องเป็นการขอมาช่วยสงเคราะห์ผู้อื่น  เช่น  ไปให้นายเวรที่กำลังติดต่ออยู่ให้กับวิญญาณที่นรก,  ผีเปรต  อสุรกาย  ฯลฯ  วิญญาณที่กำลังลำบากทั้งหลาย  พลังบุญนี้จะส่งพุ่งไปถึงผู้รับอย่างสว่างมาก  เขาจะรับได้และมีความสุขสบายได้มาก  กว่าของเราที่เบิกบุญส่งลงมาซึ่งพลังยังมีน้อยนิด
 ลูกขอบารมีขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า  โปรดแผ่บุญบารมีของพระองค์ท่านลงมาส่งถึง……………”  สาธุ
 ห้าม  ขอบุญบารมีมาให้ตัวเอง  ใช้วิธีนี้เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นเท่านั้น  ผู้ที่รับได้คือวิญญาณเท่านั้นการมลายมนต์อาคมตามสิ่งของวัตถุหรือแก้วิญญาณที่ถูกมัดบังคับของผู้มีอาคม  ให้หลุดออก  หมดสิ้นไปให้ขอบุญพระพุทธเจ้า  ดังนี้
          ลูกขอบุญบารมี ขององค์พระพุทธเจ้าโปรดแผ่บุญบารมี ของพระองค์ท่านลงมามลายมนต์ที่ผูกมัดวิญญาณ………………ให้หมดสิ้นด้วยเถิดสาธุ
          ให้ขอมามลายมนต์หลาย ๆ  ครั้งอาคมที่ผูกมัดทุกสิ่งไม่สามารถต้านบารมีของพระพุทธเจ้าได้
                          วิญญาณหญิงทำแท้ง
ในตอนใกล้ค่ำของวันหนึ่งเมื่อปฏิบัติภาระกิจจากงานประจำเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมจัดการอาบน้ำและเตรียมชุดเพื่อใส่ทำงานในวันพรุ่งนี้เมื่อเรียบร้อยแล้วผมรู้สึกว่ามีใครสักคนมาเรียกเสียงที่มาเรียกนั้นไม่ใช่คนอย่างแน่นอน  เมื่อได้ยินเช่นนั้นผมเองไม่แน่ใจนักว่าสิ่งที่มาเรียกนั้นมาดีหรือมาร้ายเมื่อความไม่ประมาทผม  กำหนดจิตเพื่อเป็นเกราะคุ้มภัยเมื่อกำหนดจิตเป็นที่เรียบร้อยแล้วผมจึงเดินออกมาจากห้องพัก  เพื่อดูซิว่าใครที่เรียกผมเมื่อเดินออกมาจนพ้นเขตที่พักก็มีดวงจิตของผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากหลังต้นไม้หน้าตาของหญิงคนนั้นดูอายุประมาณ  25-30  ปี  แต่งกายเป็นแบบชาวบ้านใส่เสื้อแขนยาวนุ่งผ้าซิ่น  เมื่อเธอพบผมเธอพูดว่า
เธอ :  ช่วยฉันด้วยค่ะ
ผม :  จะให้ผมช่วยอย่างไร
          เธอ :  ฉันหนีเขามา เขาจะมาจับตัวฉัน
ผม :  ใคร
เธอ :  .............
ผม :  หมอผีใช่ไหม
เธอ :  .............
ผม :  ท่านยมทูตใช่ไหม
เธอ :  เจ้าค่ะ ฉันหนีเขามานานแล้วช่วยฉันด้วยน่ะ
ผม :  แล้วไปทำกรรมอะไรมาล่ะ
         เธอ :  ฉันเคยทำแท้งมาแล้วเป็นไข้ตายค่ะเขามาตามจับตัวนานแล้วฉันกลัวเลยหนีเขามา ตลอด
          ผม :  ไม่ต้องกลัวท่านใจดีเวลาท่านสอบสวนก็ตอบท่านไปตามจริงท่านจะถามว่าตอนเป็นมนุษย์เคยทำบุญอะไรมาบ้างเราก็ตอบท่านไป แล้วท่านจะถามว่าตอนเป็นมนุษย์เคยทำบาปอะไรมาบ้างท่านจะถามต่อว่าให้เลือกรับ อะไรก่อนระหว่างบุญกับบาปให้เธอเลือกรับบุญก่อนนะ  แล้วเธอปฏิบัติธรรมเพื่อหนีเอาไม่ต้องกลัวน่ะ ให้ตอบอย่างที่ผมสอน
เธอ :  ค่ะดิฉันจะตอบตามที่สอน
           ผม :  ถ้าอย่างนั้นเตรียมตัวรับบุญ
          ข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าส่งมายังดวงจิตดวงนี้ด้วยเทอญ
           เมื่อเสร็จสิ้นเธอก้มกราบ  ผมได้เห็นคนอีก 2 คนมาจับที่แขนของเธอและยิ้มให้ผมก็ยิ้มตอบไปแล้วผมก็เดินออกมาจากบริเวณนั้น  เหตุการณ์ตอนนั้นทำให้ผมสงสัยว่าต่อจากนั้นหญิงคนนั้นเป็นอย่างไรต่อไปอีก  ในวันรุ่งขึ้นผมได้กำหนดจิตลงไปดูวิญญาณดวงนี้อีกครั้งในนรกสิ่งที่พบทำให้ผมต้องตกใจอีกครั้งสิ่งที่ผมเห็นคือเธอยืนกางแขนถูกมัดด้วยโซ่สิ่งที่น่าตกใจไปมากกว่านั้นก็คือเธอถูกชาย 2 คน                                        
          กำลังใช้แส้หางกระเบนฟาดตามเนื้อตัวของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลเลือดสดๆ ไหลออกมาจากแผลที่เธอโดนเปรอะเปื้อนไปหมด  ผมได้คุยกับผู้ที่กำลังลงแส้อยู่ก่อนคุยผมอุทิศบุญให้เขาทั้ง 2 คนก่อน
          ผม    :  สวัสดีท่านทั้ง 2 คน
          ผู้คุม :  สวัสดี
          ผม :  ผมขอสอบถามอะไรหน่อยได้ไหม
          ผู้คุม :  ได้ถ้าเป็นท่าน
ผม :  หญิงคนนี้เขาทำผิดอะไรมา
ผู้คุม :  เธอชื่อดอกไม้เป็นหญิงชาวบ้านไปทำแท้งมา แล้วเป็นไข้ตาย
ผม :  แล้วเขาต้องมารับโทษด้วยการเฆี่ยนอย่างนี้หรือ
ผู้คุม :  หญิงคนนี้ยังไม่ได้รับการตัดสินเลย การตัดสินเริ่มจากนี้ไปอีก 5 วันมนุษย์
          ผม :  อะไรนี่ขนาดยังไม่ได้รับการตัดสินนะยังโดนลงแส้ขนาดนี้เลยถ้าตัดสินโทษจะโดนอะไรบ้างเนี่ย
ผู้คุม :  ไม่รู้เหมือนกันข้าอยู่คนละส่วนกัน ข้าอยู่ในส่วนของการควบคุมแล้วแต่ท่านผู้สูงสุดจะตัดสิน
ผม :  ถ้าเช่นนั้นผมขออนุญาตละเว้นการลงโทษหญิงคนนี้ได้ไหมข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าส่งมายังผู้คุมทั้งสองนี้ด้วยเทอญ ผู้คุมทั้ง 2 มองหน้ากัน
ผู้คุม :  ถ้าท่านขอและต้องการเช่นนั้นก็ได้
ผม :  ขอบคุณท่านมากข้าพเจ้าขออำนาจพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าส่งมายังผู้คุมทั้งสองนี้ด้วยเทอญ
ผู้คุม :  ยิ้ม แล้วจากไป พร้อมกับโซ่ที่มัดมือของสาวดอกไม้อยู่ก็หลุดออกมาและหายไป
ผม :  เป็นอย่างไรบ้างล่ะดอกไม้
       ดอกไม้ :  เธอมองหน้าผมพร้อมกับร้องไห้ไม่ตอบอะไรได้แต่ร้องไห้อย่างเดียว
ผม :  ข้าพเจ้าขออำนาจ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โปรดดลบันดาลให้บุญของข้าพเจ้าจงช่วยรักษาแผลของวิญญาณดวงนี้ด้วย
ดอกไม้ :  ขอบคุณเจ้าค่ะ
ผม :  ไม่เป็นไร อย่าลืมสิ่งที่ผมสอนในเวลาท่านสอบสวนล่ะ
ดอกไม้ :  ค่ะ ฉันจะจำไว้
ผม :  ไปล่ะ
       เมื่อผมกลับมาจากวันนั้นมานับไปอีก 3 วัน ผมก็ลงไปดูอีกพบเธอยังอยู่ภายในห้องขังเช่นเดิมแต่ไม่มีการลงโทษเมื่อเห็นดังนั้นผมไม่ได้คุยอะไรกับเธอแล้วผมได้กลับมาดังเดิม  เมื่อครบวันที่ 5 ผมได้กำหนดจิตลงไปดูอีกครั้งปรากฏว่าเธอหายไปจากห้องขังแล้วผมเข้าใจว่าเธอคงถึงกำหนดการสอบสอน ผมก็กำหนดจิตเพื่อกลับขึ้นมา 
         แต่ก่อนกลับขึ้นมาผมมองไปตรงทางเดินขออธิบายอย่างนี้ท่านนึกถึงห้องพักที่มีทางเดินตรงกลางระหว่างทางเดินก็จะมีห้องทั้ง 2 ฝั่งซ้ายขวา แต่แทนที่จะเป็นห้องพักกับเป็นห้องขังนั่นแหละเป็นแบบนั้น  เมื่อมองไปทั้ง 2 ฝั่ง มีแต่ห้องขังเต็มไปหมด มองไม่เห็นว่าจะสิ้นสุดตรงไหนเลยแล้วแต่ละห้อง 
          ก็มีคนอยู่ในนั้นกำลังถูกลงโทษอยู่ถูกเฆี่ยนด้วยแส้หางกระเบนก็มีถูกเหล็กแหลมทิ่มตามตัวก็มีถูกทุบด้วยไม้กระบองก็มี มองแล้วเป็นที่เวทนาอย่างยิ่ง ผมมองกลับไปด้านหลังก็มีลักษณะคล้าย กันก็คือมองไม่เห็นทีสิ้นสุดของห้องขังเหมือนกัน มีคนถูกทรมานเหมือนกันแต่ละห้องก็จะมีคนคุม 2 คน คอยลงโทษอยู่เมื่อผมกำหนดจิตกลับมาที่เดิม ผมก็สงสัยว่าดอกไม้เขาอยู่ที่ไหนก็ปรากฏว่าเธอเป็นนางฟ้า                                        
         ไปแล้วเธอสุขสบายดี ผมเองก็สบายใจผมเองเมื่อรู้เรื่องทั้งหมดก็ได้โทรไปเล่าให้อาจารย์ท่านฟังแล้วท่านก็บอกว่าอือแปลกดี เป็นข้อมูลใหม่โลกมนุษย์ว่าทุกข์มากแล้วที่ข้างล่างทุกข์มากกว่าเป็นทวีคูณท่านอย่าได้ย่างกรายเข้าไปในนั้นเชียวผู้หญิงที่คิดจะทำแท้งก็ขอให้คิดดูให้ดีก่อน  
           เพราะแค่ท่านรอสอบสวนยังไม่มีการตัดสินคดีเลย ยังต้องทนทุกข์อย่างแสนสาหัสแล้วท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าท่านจะพบเจอคนอย่างผมเพราะฉะนั้นก่อนที่ท่านจะตัดสินใจทำอะไรลงไปขอให้คิดให้รอบคอบเสียก่อน
                                 เปรตจากวัด
          เมื่อวันเข้าพรรษาปี 2553 ที่ผ่านมานี้ทางโรงเรียนที่ผมทำงานอยู่มีกิจกรรมการแห่เทียนพรรษามาถวาย ณ วัดที่อยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียนที่ผมทำงานอยู่ หลังจากกิจกรรมแห่เทียนเสร็จแล้ว   ก็เป็นพิธีถวายเทียนพิธีก็ได้ดำเนินไปตามปกติเมื่อ  เวลาถวายเทียนผมได้กลิ่นอะไรแปลกๆ มากระทบที่จมูกผมคิดว่าที่มาของกลิ่นไม่ธรรมดาแน่ๆ ผมทำการอุทิศบุญให้ก่อนเป็นอันดับแรก เมื่อพิธีถวายเทียนเสร็จสิ้นลง   ผมได้เดินหลบออกมาด้านนอกของสถานที่ ทำพิธีด้านนอกของสถานที่นั้นเป็นเมรุเผาศพพอดี 
มีพี่อีกคนหนึ่งถามผมว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะพี่ก็รู้สึกอะไรบางอย่างเหมือนกัน ผมบอกขอเวลาสักครู่ผมกำหนดจิตให้สงบสักครู่สิ่งที่พบคือเปรตตัวสูงเท่าปล่องเมรุยืนอยู่ตรงเมรุนั้นเองมีอยู่ 3 ตน แล้วสัมภเวสีอีกด้วยผมบอกมีพี่ที่มาด้วยและชี้มือให้เขาดูเขามองตามที่มือชี้ไปเขาบอกว่ามองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ผมบอกเดี๋ยวผมเล่าให้ฟังขอคุยกับพวกเขาก่อน ผมกำหนดจิตอีกครั้งเพื่อคุยกับเขาผมไม่ลืมว่าต้องอุทิศบุญให้ก่อน ผมจัดการอุทิศบุญเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงขอคุย
          ผม :   สวัสดี ผมขอคุยด้วยได้ไหม
เปรต : ได้สิ พวกเรายินดี
ผม :     พวกท่านมาอยู่ตรงนี้นานแล้วหรือ
เปรต : นานประมาณ 1 ปี แล้ว
ผม :    ท่านไปอยู่ที่ไหนมา
เปรต : เราพึ่งมาจากนรก
ผม :    ได้รับบุญที่ได้จากผมไหม
เปรต : ได้รับ ดีจังเลยเราไม่เคยได้รับอย่างนี้เลย
ผม :     ดีไหมล่ะ
เปรต : ดีสิ
ผม :    แล้วเคยรับจากคนอื่นแบบนี้ไหม
เปรต : เคย แต่ไม่มากแบบนี้ แบบนี้ได้มากกว่า
ผม :    ใครส่งมา
เปรต : ไม่รู้ มาจากฟ้า มา 2 ทิศ
        ผมนึกอีกทิศหนึ่งน่าจะเป็นของอาจารย์ผม ส่วนอีกทิศน่าจะเป็นของผมเอง
ผม :    แล้วกินอยู่กันย่างไร
เปรต : ถ้าเป็นวันพระก็อนุโมทนาเอา อย่างวันนี้ก็อนุโมทนาบุญที่เขาทำเอาเอง
ผม :    ถ้าไม่ใช่วันพระล่ะ
เปรต : ก็อดกิน แต่พักหลังมีบุญมาจากฟ้าอีกก็ดีหน่อย
ผม :    ถ้าหิวทำอย่างไร
เปรต : วันไหนที่มีศพมาตั้งที่ศาลา ก็อาศัยกินศพ
ผม :     กินศพ
เปรต : ใช่ กินศพ ก็มันหิวนี่ ขโมยกินก็ไม่ได้ก็ต้องกินศพเพราะศพไม่มีเจ้าของกินได้
ผมสลดใจนิ่งเงียบไม่รู้จะพูดอะไร เพราะมันแน่นที่อกบอกไม่ถูก
ผม :    งั้น รับบุญจากผมก็แล้วกัน
         ผมอุทิศบุญให้ประมาณ 10 ครั้ง จนเขามีสภาพที่ดีขึ้น ต่อจากนั้นผมอุทิศบุญอีกประมาณ 5 ครั้ง เขาเปลี่ยนสภาพเป็นเทวดา เขามาลาและจากไป ผมได้เล่าให้พี่เขาฟังเขาสังเวชใจอย่างมาก ผลแห่งบาปอย่าคิดว่าไม่มีผล ถึงบาปนั้นจะน้อยก็ตาม และอย่าดูถูกผลแห่งบุญเช่นกัน แม้น้อยนิดไม่ว่าจะเป็นบุญหรือบาปก็ให้ผลตอบแทนเช่นกัน
          ประสบการณ์เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่น้อยคนนักที่สามารถพิสูจน์ได้ แต่ใช่ว่าจะไม่มีคนที่พิสูจน์ไม่ได้ บาปบุญคุณโทษอยู่ที่การกระทำ เมื่อกระทำลงไปแล้วยากที่จะกลับไปแก้ไขได้ เราสามารถช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นด้วย
         วิชาแห่งบุญ คือการอุทิศบุญ การเบิกบุญ เราสามารถกระทำโดยมิต้องเสียค่าใช้จ่ายใดทั้งสิ้น อาศัยจิตที่มั่นคงต่อพระพุทธศาสนา คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หาก จิตใจเรามั่นคงสิ่งดี ๆ ก็จะกลับมาตอบแทนท่านเอง เอาเป็นว่าถ้ามีเหตุการณ์ที่เป็นประโยชน์ และน่าสนใจผมจะนำมาเล่าใหม่  มารน้อย ”
           ผู้เขียนและผู้พิสูจน์ประสบการณ์ การส่งบุญของ
                                                     คนธรรมดาและมารน้อย


         

10 ความคิดเห็น:

  1. วิธีการอุทิศบุญและวิธีเบิกบุญส่งบุญ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมอยากสอบถามท่านหน่อยนะครับ มีหลายเรื่อง เลย ผมจะเอาไปทำประโยชน์ ต่อผู้คน สรรพสัตว์ ภพภูมิอื่นๆๆๆ ประเทศชาติ ศานา ครับ ขอความเมตตาจากท่านหน่อยนะครับ ติดต่อผมทางนี้นะครับ pluck_fi@hotmail.com เมตตาผมด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากๆครับ ผมจะรอท่านครับ

      ลบ
    2. ธรรมเป็นของกลางข้อมูลบางอย่างสามารถนำไปใช้ได้ครับแต่ข้อมูลบางอย่างต้องตรวจสอบด้วยนะครับ
      ต้องอภัยด้วยเพราะบวชพระอยู่ไม่สะดวก

      ลบ
  2. เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณนะคะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขออำนาจพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์โปรดดลบันดาลบุญของข้าพเจ้าลงมาส่งให้เทวดาผู้ที่รักษาตัวผู้อ่านมาตั้งแต่เกิดทุกคน

      ลบ
  3. ขอบพระคุณมากๆครับสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้

    ตอบลบ
  4. ขอบพระคุณมากๆครับสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้

    ตอบลบ
  5. ขอบพระคุณมากๆครับสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้

    ตอบลบ
  6. สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

    ตอบลบ
  7. ขนาดเจ้าของVCD เป็นพระชั่ว แล้วคำสอนจะเชื่อได้รึ?


    ตอบลบ