วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ชอบลองดีกับสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา

     เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อปี 2532 ในช่วงนั้นข้าพเจ้าบวชเรียนที่ปราจีนบุรี หลังออกพรรษาปี2532 แล้วไม่นานข้าพเจ้าได้ไปอยู่ปราริวาสที่ วัดเกตุมวดี  มีพระไปอยู่ปฏิบัติธรรมรวมประมาณเกือบ 650 รูป อยู่ 9 วัน 9 คืน ในคืนที่ 4 ได้เกิดเรื่องแปลกกับผมหลังจากปฏิบัติธรรม และ ฟังคำบรรยาย ก็เกือบ 3 ทุ่มพระทุกรูปก็ต่างกันแยกย้ายที่พักของตน โดยปกติผมก่อนจะเข้าพักในกลดผมจะต้องสวดแผ่เมตตาต่อสรรพสัตวทั้งหลายก่อนทุกครั้ง ที่จะเข้ากลด ในขณะที่แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ที่มีพิษอยู่นั้น สายตาผมได้  มองเห็นสัตว์มีพิษตัวใหญ่ขนาดเอานิ้วมือนิ้วชี้กับนิ้วก้อยไปทาบดูจะประมาณนั้น ทุกท่านลองคิดดูนะครับว่าท่าถูกมันกัดเข้าจะเป็นอย่างไร ผมมองดูมันค่อยๆคลานผ่านตรง ธูปที่ข้าพเจ้าปลักดินไว้  เข้าป่ารอบๆ บริเวณนั้น ข้าพเจ้าอธิฐานบอกกล่าวเทพเทวา ที่อยู่บริเวณนั้นทุกองค์ช่วยปกปักรักษา และ ช่วยขับไล่สัตว์มีพิษที่คลานเข้าไปในกลดทั้งหมดออกมาข้างนอกเทอด และ นี่ก็คือสิ่งที่ข้าพเจ้ามีสำมาคารวะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้ท่านช่วยดุแลเรา และนี่ก็อีกเรืองที่ชอบลองของกันจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ จะต้องระวังให้มาก กลดของพระแต่ละองค์ จะห่างกัน 3-5 เมตร พระรูปหนึ่งอธิฐานขอชมบารมีเทพเทวาท่านที่อยู่บริเวณนี้ ท่านบอกผมว่าแค่ขอชมเท่านั้น หารู้ไม่วา่นี่คือการลองของและก็ได้ผลครับท่านในคืนนั้นหลังจากพระทุกรูปเข้ากลดทำกิจของตนแผ่เมตตาก็เข้านอน ท่านเล่าว่าพอนอนท่านก็ภาวนาไปด้วย
ประมาณเที่ยงคืน อยู่ก็เกิดเรื่องแปลกขึ้นอยู่ๆก็มีแสงประหลาดพุ่งลงมาจากท้องฟ้าทะลุลงมากลางกลดมาที่กลางตัวท่านอย่างจังท่านบอกว่ามันทรมานมาก ท่านดิ้นร้องให้ทุกท่านรวมผมช่วยทั้งๆที่บริเวณนั้นมีพระนับร้อยรูป ท่านบอกว่าหลุดออกมาได้ก็ตอนพระท่านมาตีระฆังให้สวดมนต์ตี 3 ทุกคืนและทำสมาธิจนตี5.30นาทีหลังจากนั้นก็มาพักผ่อนกันสบาย พระรูปนี้ที่อยู่ใกล้กันกับผมก็เล่ารายละเอียดให้ฟังดั่งที่กล่าวมา ผมจึงบอกท่านไปว่านี่ละ่คือการลองดีกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเทวาท่านแค่มาเตือนแค่นั้นเองที่หลังอย่ามาลองดีอีกจะโดนหนักกว่านี้แน่ ตั้งแต่นั้นมาท่านไม่เคยทำอีกเลย
  ล้อเล่นกับโลกได้แต่อย่าล้อเล่นกับสิ่งที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่ามันไม่สนุกแน่ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น